fbpx

พรีเมียม, storytelling และลิมิเต็ด เอดิชั่น: การตลาดของ Nespresso

กลยุทธ์โดนๆ ที่ทำให้เนสเพรสโซกลายเป็นแบรนด์กาแฟที่เติบโตเร็วที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก

ถ้าคุณได้ลองหยิบแคปซูลกาแฟ Ethiopia ของเนสเพรสโซ (Nespresso) ขึ้นมา…. แน่ล่ะ สำหรับคนไม่อินกับกาแฟคงคิดว่าก็เป็นแค่แคปซูลอันหนึ่ง แต่สำหรับคอกาแฟแล้ว ภาพของกาแฟหอมกรุ่นที่คัดสรรมาจากเอธิโอเปียคงลอยมาเบาๆ ซึ่งแน่นอนว่ารสชาติย่อมต้องแตกต่างจากแคปซูลกาแฟนิคารากัวหรือบราซิลอย่างแน่นอน

แบรนด์กาแฟคนรุ่นใหม่สไตล์มิลเลนเนียล

ปัจจัยสำคัญที่นำมาสู่การเป็นแบรนด์กาแฟที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลกมีอยู่หลายประการ ดังนี้
– ความพรีเมียม : บูติกแต่ละแห่งออกแบบอย่างหรูหรา สวยงาม เหมือนบูติกสินค้าแฟชั่น มีผู้เชี่ยวชาญของแบรนด์คอยแนะนำว่ารสชาติไหนเหมาะกับคุณ แถมบางทียังมีการเชิญดีไซเนอร์และนักออกแบบมาออกแบบลวดลายแคปซูลให้เป็นพิเศษด้วย สิ่งเหล่านี้ทำให้คนยอมซื้อ แม้ว่าราคาต่อหน่วยอาจจะสูงกว่าแบรนด์แคปซูลอื่นๆ หรือกาแฟสดในปริมาณเท่ากันก็ตาม

– storytelling : ชื่อแต่ละชื่อของแคปซูลแต่ละสีล้วนแล้วแต่บ่งบอกถึงพื้นที่อันไกลโพ้นทั่วโลกที่เป็นแหล่งปลูกกาแฟที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เหมือนเป็นการให้ความรู้กับผู้บริโภคไปในตัว 

– ลิมิเต็ด เอดิชั่น : สร้างความพิเศษด้วยความเอ็กซ์คลูซีฟ (exclusivity) ผ่านสินค้าแบบลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่มีจำกัด แต่มีบ่อย พร้อมแอ็คเซสเซอรี่ที่ออกมาพร้อมกัน นอกจากจะสร้างความรู้สึกพิเศษจนน่าสะสมแล้วยังทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีความแปลกใหม่ตลอดเวลา 

-การเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม : สร้างความรู้สึกมีส่วนร่วมในคลับพิเศษผ่านระบบสมาชิก ซึ่งทำให้พนักงานขายสามารถคอนแท็คกับลูกค้าโดยตรง ซึ่งสามารถสร้างความภักดีต่อแบรนด์ (loyalty) ได้ง่ายขึ้น

– วัฒนธรรม DIY : แคปซูลรสชาติต่างๆ มักจะถูกนำเสนอคู่กับไอเดียสูตรกาแฟใหม่ๆ ที่ให้ลูกค้าสามารถกลับไปลองทำเองที่บ้านได้ 

– รักษ์โลก : แคปซูลออกแบบมาให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ และทำให้เห็นจริงด้วยการเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ที่ทำจากแคปซูลรีไซเคิลโดยเฉพาะ อย่างเช่นจักรยาน เป็นต้น 

และเป็นธรรมเนียมสำหรับช่วงใกล้ปีใหม่ที่เนสเพรสโซจะเปิดตัวคอลเลคชั่น Festive แบบลิมิเต็ด เอดิชั่น ซึ่งในปีนี้มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ #FeeltheWarmthWithin หรือการฉลองปลายปีสไตล์นอร์ดิก กลุ่มประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก พร้อมวัฒนธรรมการดื่มกาแฟอย่าง Fika และปรัชญา Hygge โดยได้เชิญดีไซเนอร์สาวชาวสวีเดนอย่าง Louise Campbell มาออกแบบดีไซน์แคปซูลด้วย โดยคอลเลคชั่นนี้จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป 


ภาพ: Nespresso, Frederic Stucin for Nespresso

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin
Share on pinterest

More to explore