คนที่สนใจวงการศิลปะไทยย่อมต้องรู้จักกับจิรายุ คูอมรพัฒนะ หรือ ‘จิรายุ คู’ (Jirayu Koo) ศิลปินและนักวาดภาพประกอบที่มีผลงานโดดเด่นจากการใช้สีสันสดใส รวมถึงเส้นสายและรูปทรงเรียบง่ายซึ่งมาจากพื้นฐานของเธอที่เป็นกราฟิกดีไซเนอร์มาก่อน ทำให้งานของเธอไปสะดุดตาแบรนด์ระดับนานาชาติมากมาย ตั้งแต่สิ่งพิมพ์อย่าง The New York Times, The Guardian, Wallpaper* ไปจนถึงแบรนด์สินค้าอย่าง Moleskine, Beams Tokyo, Uniqlo ไปจนถึง Apple Music และล่าสุดนี้ เธอก็ได้มีโอกาสไปทำโปรเจ็กต์ที่จีนเป็นครั้งแรก ซึ่งเราก็แอบไปสอบถามเพื่อนำประสบการณ์ของเธอมาแบ่งปันให้ผู้อ่านของเรากัน เผื่อว่าศิลปินคนไหนอยากจะไปเปิดตลาดจีนดูบ้าง
ทราบมาว่าจริงๆแล้ว โปรเจ็กต์นี้มีความเชื่อมโยงกับงานที่ทำกับ Apple Music ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ
“งั้นอาจจะต้องเริ่มจากงานที่ทำกับ Apple Music ก่อน เป็นการทำ visual ให้กับการเปิดตัวซิงเกิลของศิลปินต่างๆ ค่ะ ซึ่งทาง Apple Music จะส่งซิงเกิ้ลที่กำลังจะออกมาให้เราฟังล่วงหน้า เพื่อให้เราออกแบบ ซึ่งส่วนมากเราก็จะจับเอาไอเดียหลักๆ หรือไม่ก็มู้ดและโทนของเพลงมาทำงาน มากกว่าที่จะทำภาพเพื่อบรรยายเนื้อเพลง ตัวงานเลยจะยังคงมีพื้นที่ให้คนดูได้มีส่วนร่วม จินตนาการต่อไปอีกได้เราคิดว่าเพราะสเปซที่ว่านี่ล่ะ รวมถึงสีและรูปทรงที่ชัดเจนในงานของเรา พอจบโปรเจ็กต์ทางสำนักงานใหญ่ที่สิงคโปร์เลยขอซื้อปริ้นต์ และให้เราช่วยเลือกกรอบใส่เพื่อไปติดทั้งในห้องประชุม รวมไปถึงพนักงานระดับสูงหลายคนจากหลายประเทศก็ขอซื้อไปติดตามบ้านพวกเค้าด้วยเช่นกัน และในปีถัดมาเมื่อสำนักงานใหญ่ของ Apple Music จากเซี่ยงไฮ้มาประชุมที่สิงคโปร์แล้วเห็นงานเราแขวนอยู่ เลยขอคอนแท็คเราเพื่อติดต่อขอซื้องานชุดนี้ไปติดที่เซี่ยงไฮ้อีก นี่เลยรอดูว่าจะมีประเทศไหนบินไปประชุมที่สิงคโปร์หรือเซี่ยงไฮ้อีกมั้ย (หัวเราะ)”

“ส่วนโปรเจ็กต์ Silkaholic ที่ฉงชิ่งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยการติดต่อจาก Sagehoue Creative & Intergrated Marketing Agency ที่เบสอยู่ที่ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ได้คอนแท็คมาจากลูกค้าที่เคยร่วมงานกันอย่าง Apple Music อีกที ทางเอเจนซี่เลยมาตามผลงานเราทางอินสตาแกรม และเมื่อเขามีโอกาสมาเมืองไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เลยได้นัดเจอและคุยกันถึงความเป็นไปได้ที่จะทำงานร่วมกัน จนมาได้ทำงานนี้ก็ถือว่าเกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว เพราะหลังจากเจอกันครั้งแรก งานนี้ก็เกิดขึ้นตามมาติดๆ เลยค่ะ ระยะเวลาการทำงานนี้ถ้าไม่นับช่วงเวลาที่ติดวันหยุดยาวของทางจีนที่ต้องรอฟีดแบ็คลูกค้า ก็ประมาณไม่เกิน 2 อาทิตย์จบทุกอย่าง ที่เหลือก็เป็นช่วงเวลาที่ทางนั้นเค้าทำโปรดักชั่นส่วนต่างๆ สำหรับงานเปิดตัว”
อยากให้เล่าให้ฟังถึงโปรเจ็กต์นี้หน่อยค่ะ
“โปรเจ็กต์ Silkaholic เป็นการทำงานร่วมกันของเรากับทางห้างสรรพสินค้า IFS เป็นห้างสรรพสินค้าระดับลักชัวรี่ที่เมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน เขาอยากทำแคมเปญโปรโมทวันแม่สากล และวันแห่งความรักของจีนที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนเดียวกัน โดยใช้ผ้าพันคอที่เราออกแบบเป็นตัวกลางส่งผ่านความรักให้กับแม่ คนรัก หรือแม้ให้กับตัวเองค่ะ โดยนอกจากทางห้างจะจัดอีเว้นต์+ปาร์ตี้เพื่อเป็นการเปิดงาน Silkaholic แล้ว ทางห้างยังขอจัดแสดงงานอื่นๆ ของเราด้วย เพราะชอบมาก งานนี้เลยถือว่าเป็นการทั้งได้ทำงานครั้งแรกที่เมืองจีน และได้เปิดตัวผลงานที่ผ่านมาของตัวเองไปพร้อมๆ กันด้วย”
ลูกค้าในจีนมีพฤติกรรมเกี่ยวกับการเสพหรือซื้องานดีไซน์อย่างไร
“จริงๆ อาจจะยังตอบได้ไม่ชัดมาก เพราะงานนี้เราไม่ได้เจอกับลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคโดยตรง แต่เป็นการทำงานให้กับลูกค้าที่เป็นบริษัทมีบรีฟที่ชัดเจน แต่เท่าที่สังเกตและได้คุยกับเพื่อนคนจีนบางคน รู้เลยว่าคนจีนมีกำลังซื้อสูง แต่ยังเป็นการซื้อหรือเสพอะไรตามๆ กันซะส่วนใหญ่ ซึ่งในแต่ละเมืองก็จะมีพฤติกรรมการบริโภค การเสพงานดีไซน์ค่อนข้างต่างกันค่ะ”
เห็นบอกว่ามีแฟนคลับไปเจอด้วย
“เซอร์ไพรส์มากค่ะ เพราะทางทีมงานของห้างบอกก่อนงานเริ่มว่าจะมีแฟนคลับมาขอพบในวันงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก เพราะอย่างที่รู้กันว่าที่จีนเว็ปไซต์ หรือโซเชียลต่างๆที่เราใช้กันถูกบล็อคการเข้าถึง เราเลยเซอร์ไพรส์มากที่งานของตัวเองมีแฟนคลับชาวจีนด้วย และไม่ใช่แค่นั้น เค้ายังตั้งใจมาเจอ เอาของที่ทำเองมาให้ด้วย”
“จริงๆ เลยเริ่มรู้สึกว่าในอนาคตคนจีนรุ่นใหม่น่าจะหาทางเสพงานศิลปะกันมากขึ้น ไม่ว่าเขาจะถูกกีดกั้นอย่างไรก็ตาม และเมื่อเค้าได้เห็นมากขึ้น เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เข้าใจและเจอสิ่งที่ตัวเองชอบจากการดูเยอะๆ พฤติกรรมการบริโภคงานดีไซน์ของพวกเค้าน่าจะมีแนวโน้มที่ส่งผลอะไรบางอย่างไปยังวงการดีไซน์และศิลปะทั่วโลกได้เลยทีเดียว”
ท้ายสุดนี้ อยากให้ช่วยอัพเดทผลงานช่วงนี้หน่อยนะคะ
“ช่วงนี้ก็กำลังจะมีงานเพ้นต์กำแพงที่ boutique hotel รวมถึงติดตั้งรูปผลงานที่ออกแบบให้กับทางโรงแรมสำหรับ 40 ห้อง ก็กำลังเตรียมตัวอยู่ค่ะ และก็มีงานออกแบบแพ็คเกจจิ้งให้กับแบรนด์ช็อคโกแลตไทย งานที่กำลังทำร่วมกับแบรนด์แฟชั่น นอกจากนั้นช่วงปลายปีก็จะมีโปรเจ็กต์ที่เข้าไป take over space เพื่อทำเป็น artist apartment อีกด้วยค่ะ”
“นอกจากงานที่เกี่ยวกับศิลปะแล้ว ส่วนตัวก็ยังทำเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม WeAreKinKin ที่แชร์เรื่องอาหาร ท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ร่วมกับสามีด้วย ก็จะเป็นมุมมองความคิดเห็นในแบบของพวกเราเองที่อยากร่วมแชร์กับคนที่สนใจการใช้ชีวิตสไตล์ใกล้ๆ กัน ส่วนนี้เองก็มีความสนุกและมีเรื่องราว รวมไปถึงโปรเจ็กต์ต่างๆ ให้ทำอยู่เสมอๆ เช่นกันค่ะ”
- Jirayu Koo