fbpx

บทสนทนาสั้นๆ กับวง Supersatree ว่าด้วยเส้นทางดนตรี ตัวตน และความฝัน

พูดคุยกับเกิร์ลแบนด์ผู้สร้างเสียงดนตรีและเสียงหัวเราะไปพร้อมๆกัน

“ซุปเปอร์สตรี” วงดนตรีที่สร้างสีสันใหม่ให้กับวงการเพลงไทย ด้วยคอนเซ็ปต์และสไตล์เพลงที่ไม่ซ้ำใคร เพราะพวกเธอเลือกใช้เสน่ห์ของ “เครื่องเป่า” มาบอกเล่าความเป็นตัวตนผ่านบทเพลง เส้นทางดนตรีนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เชิญคุณหาคำตอบไปพร้อมกับเรา


KP: เป็นวงดนตรีผู้หญิงล้วนถึง 8 คนคุณมารวมตัวกันได้อย่างไร

ฟิล์ม: ก่อนหน้านี้พวกเราเคยร่วมโปรเจกต์หนึ่งด้วยกัน เป็นโปรเจกต์ที่รวบรวมนักดนตรีผู้หญิงเพื่อคัฟเวอร์เพลงของศิลปินท่านอื่นๆ แต่ว่าโปรเจกต์นั้นจบไปแล้ว แต่พวกเรายังไม่จบ เราคุยกันต่อว่าอยากลองทำเพลงของตัวเองในนามศิลปิน ไม่ต้องไปเล่นเพลงคนอื่น

KP: ซุปเปอร์สตรีมองตัวเองอยู่ตรงจุดไหนของวงการดนตรี

เอิร์ธ: เราอยู่ตรงจุดไหนเหรอ เราคิดว่ามันก็ไม่ใช่แค่เริ่มต้น เราน่าจะเริ่มมาได้ครึ่งทางแล้ว เพราะการที่เรามีโอกาสได้ทำเพลงของตัวเองก็ยาก อย่างบางคนชอบเล่นดนตรี แต่ยังไม่มีโอกาสไปเล่นที่ร้าน บางคนมีโอกาสได้เล่นที่ร้านแล้วแต่ยังไม่ได้ทำเพลงของตัวเอง และก็จะมีอีกหลายๆ คนที่กำลังทำเพลงของตัวเอง แต่อยู่ในระหว่างรอว่าเพลงจะไปต่อได้แค่ไหน เราคิดว่าเราอยู่จุดกึ่งกลางตรงนั้น ส่วนขั้นต่อไปเราก็อยากจะมีค่าย อยากสร้างชื่อเสียง สร้างรายได้ให้มากพอที่เราจะเล่นดนตรีแบบเลี้ยงชีพได้ 

KP: ถ้าพูดถึงซุปเปอร์สตรีอยากให้คนนึกถึงอะไร

ฟิล์ม: ภาพแรกที่เราคุยกัน เราไม่ได้อยากให้คนมองเราว่าเป็นแค่ผู้หญิงเล่นดนตรี เราอยากพิสูจน์ให้เห็นว่าเราทำดนตรีในแบบของเราเองได้ เรามีความตลก มีความสนุกสนาน ให้คนรีแลกซ์ไปกับเรา และพยายามใส่ความเป็นแฟชั่นให้มันน่ามอง ไม่ยัดเยียดทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ทั้งเรื่องดนตรีและภาพลักษณ์

KP: ถ้างั้นซุปเปอร์สตรีก็ไม่ได้มีความหมายในแง่เฟมินิสต์ใช่ไหม

เตย: มันเป็นความบังเอิญมากกว่า เราไม่ได้ตั้งใจว่าเราจะต้องเป็นฮีโร่อะไรแบบนั้น
เอิร์ธ: ตอนที่คิดชื่อเราแค่นึกถึงคำว่าสุภาพสตรี ซึ่งมันสุภาพ แต่พวกเราไม่สุภาพ ก็เลยต้องหาคำอื่นมาชดเชย (หัวเราะ) ก็เลยได้คำว่าซุปเปอร์สตรีแทน

KP: อะไรคือสิ่งที่ยึดความเป็นซุปเปอร์สตรีไว้ด้วยกัน

น้ำเย็น:  น้ำเย็นว่าความฝันของเด็กเรียนดนตรีทุกคนก็อยากมีเพลงของตัวเอง อยากเพอร์ฟอร์มออนสเตจ เพราะอย่างพวกเราหลายคน (น้ำเย็น-คีย์บอร์ด, แนทจี้-ทรอมโบน, เมย์-แซกโซโฟน, ปุ๊กปิ๊ก-ทรัมเป็ต) เราก็เล่นอยู่ข้างหลังมาตลอด ทำงานเบื้องหลัง แต่งเพลง เล่นดนตรีให้คนอื่น ยังไม่เคยมีโอกาสอยู่ข้างหน้า เราอยากจะสัมผัสตรงนั้น อยากมีโอกาสได้เล่นคอนเสิร์ตกับเพื่อนๆ ประมาณนี้

KP: ความรู้สึกเมื่อได้มาอยู่ข้างหน้าเวทีเติมเต็มอะไรเราบ้าง

ฟิล์ม: ตอนนี้ถ้าพูดถึงเรื่องเงินเราค่อนข้างจะขาดทุนมากๆ (หัวเราะ) แต่ว่าเรายอมค่ะ ยอมเสี่ยงกันตรงนี้ทุกคนเลย ยอมทิ้งงานตัวเอง ยอมทิ้งโอกาสส่วนอื่นที่จะสร้างรายได้ เพื่อมาทำความฝันด้วยกันตรงนี้ เราไม่รู้หรอกว่าเรื่องเงินมันจะคุ้มหรือเปล่า แต่ด้วยความที่เราอยากเป็นศิลปิน เราก็ต้องสู้ต่อไปให้ถึงที่สุด

“สักครั้งในชีวิต ถ้าได้มาอยู่ด้านหน้าก็สามารถทำให้เราจดจำตลอดไป”

ฟิล์ม-รินรนา โสนันทะ


KP: ก่อนจะไปถึงเป้าหมายมีวิธีให้กำลังใจกันอย่างไร

เมย์: มันดีตรงที่พอเรามาเจอกันมันมีความสุขค่ะ เราสามารถเอาเรื่องอะไรมาแชร์กันและพูดเปิดอกกันได้ เหมือนกับว่าเพลงมันมีอิทธิพลกับทุกคนในวง 

KP: ฝากผลงานและช่องทางการติดตาม

ฟิล์ม: เพลงแรกของพวกเราชื่อเพลง “ปล่อยจอย” จะเป็นเพลงที่สร้างพลังบวกสำหรับคนอกหักค่ะ
เอิร์ธ: ส่วนเพลงที่สองเป็นเพลงเศร้า สร้างพลังลบ (หัวเราะ)
ฟิล์ม: ก็อยากให้ติดตามว่าสไตล์ของพวกเราทั้ง 8 คนจะถ่ายทอดออกมาเป็นแบบไหนในตอนต่อไป ติดตามผลงานของเราได้ทางเพจเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และยูทูบ ซึ่งจะมีทั้งเรื่องดนตรี เรื่องไลฟ์สไตล์ และอาจจะทำ vlog ออกมาเล่าเรื่องราวของพวกเราทั้ง 8 คนด้วย ว่าชีวิตของแต่ละคนทำอะไรบ้างนอกเหนือจากการเล่นดนตรีค่ะ

เกี่ยวกับวงซุปเปอร์สตรี

สมาชิกวงประกอบด้วย
เอิร์ธ-ณัฐสุดา อิทธิยากร (เบส), เตย-ปภาณิน เกษตรทัต (กีตาร์), ฟิล์ม-รินรนา โสนันทะ (ร้องนำ), กุ๊กไก่-กัลยา บัวกด (กลอง), แนทจี้-นิติกาญจน์ นิธิไชยพัชร์ (ทรอมโบน), น้ำเย็น-พัชพร มุขพรหม (คีย์บอร์ด), เมย์-ณัฐอร เลาหวงศ์เพียรพุฒิ (แซกโซโฟน), ปุ๊กปิ๊ก-วงศรัตน์ สวนอุดม (ทรัมเป็ต) 

ติดตามเรื่องราวของพวกเธอได้ทาง

FB : Supersatree
IG : Supersatree
YouTube : Supersatree band

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin
Share on pinterest

More to explore

แผลเก่า:Old Wound แผลเดิมในเรื่องเล่า ที่ยังเป็นแผลสดของพล็อตสังคมไทย

นิทรรศการ แผลเก่า / Old Wound นิทรรศการเดี่ยวโดย ประทีป สุธาทองไทย ศิลปินนักตั้งคำถาม ผู้ซ่อนบทสนทนาทางสังคมไว้ในงานเสมอ

“Yesterday I Was, Tomorrow I Will Be” นิทรรศการแห่งความฝันและความสำเร็จของ “Pomme Chan”

ก้าวสู่โลกที่เปี่ยมไปด้วยแพชชั่น ผ่านผลงานศิลปะตั้งแต่ชิ้นแรกที่น้อยคนจะได้เห็น สู่วันที่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพร่วมระยะเวลา 20 ปี