ในยุคที่เต็มไปด้วยสิ่งดึงดูดความสนใจเราตลอดเวลา สมาธิและการจดจ่อต่องานตรงหน้ากลายเป็นเรื่องยาก นี่คือเทคนิคการปรับพื้นที่ทำงานง่ายๆ ที่ช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยให้เราทำงานได้ลื่นไหล ถ้าอยากทำงานแบบโฟกัสไปที่สิ่งสำคัญที่ควรทำ
เก็บทุกอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปให้พ้นทาง
สภาพโต๊ะบ่งบอกสภาพจิตใจ ถ้าโต๊ะคุณหยุ่งเหยิง ก็สะท้อนถึงภาวะในสมองของคุณด้วย ถ้าคุณอยู่ในโหมดครีเอทีฟ โต๊ะรกๆ ที่มีของมีของสุมอยู่เต็มไปหมดนั้นเป็นเรื่องโอเค (ดีต่อการคิดแบบเชื่อมโยง – Associative thinking) แต่หากต้องการทำงานในโหมดที่ต้องโฟกัส ควรลดสิ่งดึงดูดความสนใจที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานออกไปให้มากที่สุด อยากให้ลองสวมวิญญาณของ Marie Kondo แล้วถามตัวเองว่า สิ่งนี้ spark joy หรือไม่ หรือมีประโยชน์ต่อชีวิตการงานของเราอย่างไรบ้าง โดยเลือกเก็บไว้แต่สิ่งที่จำเป็นในพื้นที่ทำงานเท่านั้น โละหนังสือที่ไม่ได้อ่าน วางกองพะเนิน บิลค่าน้ำค่าไฟ อะไรต่างๆ มากมายออกจากโต๊ะแล้ว และพอโต๊ะโล่งขึ้น เชื่อเถอะว่าคุณจะอยากทำงานมากขึ้นเอง
ของต้องใช้ให้อยู่ใกล้มือ จัดเก็บอุปกรณ์โดยเรียงจากความบ่อยในการหยิบใช้
ถ้าเป็นนักเขียนล่ะก็ แน่นอนว่าปากกา ดินสอ สมุดโน้ต คอมพิวเตอร์ย่อมต้องอยู่ใกล้มือที่สุด แบบที่หยิบมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าเป็นศิลปินวาดภาพ ปากกา กระดาษ หรือไอแพด ก็ต้องหยิบได้ทันทีที่มีไอเดีย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาให้เสียอารมณ์ หนังสืออ้างอิงควรอยู่ด้วยกัน ส่วนหนังสือที่ใช้เป็นแรงบันดาลใจก็ควรอยู่ด้วยกัน การจัดเก็บทุกอย่างเป็นหมวดหมู่ทำให้คุณไม่ต้องเปลืองสมองกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เช่น ของหาย เป็นต้น

เลือกเก้าอี้ที่นั่งหรือยืนสบาย
การนั่งอยู่กับที่นานๆ ส่งผลต่อสุขภาพ หนึ่งในข้อดีของการทำงานที่บ้านคือคุณสามารถเลือกเก้าอี้ที่คุณต้องการได้ ขอให้เลือกแบบที่นั่งสบาย เข้ากับสรีระ อาจจะราคาแพงหน่อย แต่ช่วยให้คุณทำงานได้อย่างรื่นรมย์ขึ้นอีกมาก หรือเลือกหาโต๊ะทำงานที่สามารถปรับระดับให้สามารถยืนทำงานได้ ช่วยให้เราปรับเปลี่ยนอิริยาบทการทำงานเราอยู่เสมอ
เติมไฟด้วยแรงบันดาลใจ
ภาพถ่ายสวยๆ คำพูดโดนใจ งานของศิลปินที่ชอบ… ทั้งหมดนี้ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางใจที่จำเป็นต่อชีวิตการทำงานมาก โดยเฉพาะคนที่ทำงานในแวดวงสร้างสรรค์ ถ้าจะให้ดีควรจะนำภาพหรือโควตต่างๆ มาเปลี่ยนอยู่เป็นประจำเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ จะได้รู้สึกดีเวลาเรามองไปยามพักสายตา แค่นี้เราก็มีพลังทำงานต่อแล้ว การได้จัดพื้นที่ทำงานของตัวเองยังช่วยให้รู้สึกเครียดน้อยลงและจัดการกับสิ่งที่มาเบี่ยงเบนความสนใจได้ง่ายขึ้นด้วย
สร้างความสดชื่น ด้วยต้นไม้หรือดอกไม้
ตอนนี้คนหันมาเลี้ยงต้นไม้ในบ้านกันเยอะ แต่ต้นไม้และดอกไม้ไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามเท่านั้น การมองอะไรเขียวๆ ช่วยลดระดับความเครียดและช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย โดยงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Exeter พบว่าการตกแต่งพื้นที่ทำงานแบบเรียบๆ หรือมินิมัลด้วยต้นไม้ช่วยเพิ่ม productivity ได้ดีเลยทีเดียว

หลีกเลี่ยงสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจ
จะเรียกว่าเป็นฮวงจุ้ยหรือ common sense ก็ได้ แต่การรายล้อมด้วยสิ่งที่คอยกวนหรือเบี่ยงเบนความสนใจอยู่เสมอนนั้นไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย ลองจัดองศาของโต๊ะทำงานให้ดี อย่าหันเข้าหาประตูที่มีคนเดินผ่านไปผ่านมา ถ้าอยู่ร่วมกับผู้อื่นก็ควรอยู่ให้ห่างจากบริเวณที่เป็นจุดรวมตัวของบ้าน เช่น ห้องอาหาร ห้องนั่งเล่น เป็นต้น เพราะแค่มีอะไรมาสะกิดนิดเดียวก็สามารถสติหลุด ไอเดียกระเจิดกระเจิง ต้องมาเริ่มนับหนึ่งกันได้ง่ายๆ
เชื่อว่าถ้าเริ่มจากทั้งหมดนี้ คุณก็จะมีพื้นที่ทำงานที่น่านั่ง น่าทำงานมากขึ้นแล้ว ขอให้ความสุขจงอยู่กับคนรักงานทุกท่าน