fbpx

James Dyson นักประดิษฐ์ผู้สร้างความสำเร็จจากความล้มเหลว

อีกหนึ่งผู้ทรงอิทธิพลระดับโลกที่เชื่อว่ายิ่งล้มมากเท่าไหร่ยิ่งดีมากเท่านั้น

คุณคิดว่าถ้าจะทำอะไรสักอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน คุณจะลองทำกี่ครั้งถึงจะยอมแพ้?

สำหรับคนธรรมดาอย่างเราๆ ก็อาจจะไม่ต่างกันมาก ห้าครั้ง สิบครั้ง หรืออย่างมากก็ยี่สิบครั้ง แต่สำหรับชายที่ชื่อ เจมส์ ไดสัน (James Dyson) แล้ว เขาลองผิด (แบบไม่ถูก) และล้มเหลวมากว่าห้าพันครั้ง (หรือจะพูดให้ถูกคือ 5,126 ครั้ง) และใช้เวลาถึง 15 ปีในการคิดค้นเครื่องดูดฝุ่นแบบ Dual Cyclone ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สร้างชื่อของแบรนด์ Dsyon ขึ้นมาได้สำเร็จจนเป็นที่น่าพอใจ

“คนมักจะมองความคิดสร้างสรรค์ว่าเป็นกระบวนการอันแสนมหัศจรรย์ แนวคิดคือความคิดสุดครีเอทีฟนั้นมักโผล่ออกมาจากธาตุอากาศ จากการคิดใคร่ครวญอย่างลึกซึ้ง โมเดลนี้มองนวัตกรรมว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ และมักเกิดในอัจฉริยะ แต่แนวคิดนี้ผิด ความคิดสร้างสรรค์คือสิ่งที่เกิดจากความพยายาม และเป็นสิ่งที่มีลักษณะเฉพาะตัว ถ้าเราไม่เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เราก็จะไม่สามารถทำให้มันดีขึ้นได้ รวมถึงไม่สามารถทำให้สังคมหรือโลกนี้ดีขึ้นได้” เจมส์ ไดสันกล่าวกับแมททิว ไซด์ (Matthew Syed) ผู้เขียนหนังสือ Black Box Thinking: Marginal Gains and the Secrets of High Performance “ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่ควรถูกมองเหมือนบทสนทนา คุณต้องมีปัญหาก่อน แล้วคุณค่อยคิดถึงวิธีการแก้ปัญหานั้น” และการแก้ปัญหาหนึ่งก็อาจจะนำไปสู่อีกปัญหาหนึ่งก็ได้ ใครจะรู้

เส้นทางการเป็นนักประดิษฐ์ของเขาเกิดขึ้นตอนที่เขาดูดฝุ่นอยู่ที่บ้านทางตะวันตกของอังกฤษ แล้วอยู่ดีๆเครื่องดูดฝุ่นเจ้ากรรมก็เกิดหยุดดูดฝุ่นซะงั้น และจากความติดขัดนี้เองที่ทำให้เขาพยายามหาวิธีสร้างเครื่องดูดฝุ่นในอุดมคติที่สามารถดูดฝุ่นได้หมดจดและไม่ต้องใช้ถุงด้านใน จนกระทั่งประสบความสำเร็จในอีก 15 ปีต่อแม้ แม้เจมส์ ไดสันจะไม่ใช่คนแรกที่คิดค้นสิ่งนี้ได้ แต่เขาเป็นคนเดียวที่มีความมุ่งมั่นเพียงพอที่จะทำให้การ “ลองผิด” กลายเป็น “ลองถูก” ในที่สุด และกลายเป็นมหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของโลก “ผมไม่เคยกลัวความล้มเหลวนะ” เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ “ผมเคยคิดด้วยซ้ำว่าเด็กๆ ควรได้คะแนนจากการล้มเหลวมากกว่าความสำเร็จอีก” และนั่นก็คือที่มาของผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมายในเครือไดสัน ทั้งเครื่องดูดฝุ่น ไดร์เป่าผม เครื่องฟอกอากาศ และแม้โครงการรถยนต์ไฟฟ้าของเขาจะพับไปแล้ว แต่เชื่อเถอะว่าอีกไม่นาน ต้องมีไอเดียใหม่ๆ ออกมาจากบริษัทนี้อีกแน่นอน

และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อาจจะลองแล้วลองเล่าจนรู้สึกท้อแท้ คำกล่าวของเจมส์​ ไดสันเหล่านี้อาจจะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้คุณได้

  1. The key to success is failure… Success is made of 99 percent failure. (กุญแจสู่ความสำเร็จคือความล้มเหลว ความสำเร็จเกิดจากความล้มเหลว 99%)
  2. There’s nothing wrong with things taking time. (ไม่มีอะไรผิด ถ้าบางอย่างอาจต้องใช้เวลา)
  3. Everyone has ideas. They may be too busy or lack the confidence or technical ability to carry them out. But I want to carry them out. It is a matter of getting up and doing it. (ทุกคนมีไอเดีย แต่อาจจะยุ่งหรือไม่มั่นใจที่จะทำ หรือไม่มีความสามารถเชิงเทคนิคที่จะทำได้ แต่ผมอยากทำให้มันสำเร็จ ท้ายสุดแล้วมันก็อยู่ที่การลุกขึ้นและทำมันจริงๆ)
  4. If you want to do something different, you’re going to come up against a lot of naysayers. (ถ้าคุณอยากทำในสิ่งที่แตกต่าง คุณจะต้องเจอกับคนที่ไม่เห็นด้วยมากมายทีเดียว)
  5. Don’t listen to experts. (อย่าฟังผู้เชี่ยวชาญให้มากนัก)

อ้างอิง: https://www.inc.com/gordon-tredgold/27-tips-for-when-you-feel-like-giving-up-from-billionaire-failure-expert-sir-james-dyson.html

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin
Share on pinterest

More to explore

แผลเก่า:Old Wound แผลเดิมในเรื่องเล่า ที่ยังเป็นแผลสดของพล็อตสังคมไทย

นิทรรศการ แผลเก่า / Old Wound นิทรรศการเดี่ยวโดย ประทีป สุธาทองไทย ศิลปินนักตั้งคำถาม ผู้ซ่อนบทสนทนาทางสังคมไว้ในงานเสมอ

“Yesterday I Was, Tomorrow I Will Be” นิทรรศการแห่งความฝันและความสำเร็จของ “Pomme Chan”

ก้าวสู่โลกที่เปี่ยมไปด้วยแพชชั่น ผ่านผลงานศิลปะตั้งแต่ชิ้นแรกที่น้อยคนจะได้เห็น สู่วันที่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพร่วมระยะเวลา 20 ปี