หมดไอเดีย คิดไม่ออก ต้องทำยังไง? หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดคือใช้เวลาอยู่กับหนังสือสักเล่ม และนี่คือหนังสือห้าเรื่องที่เราเลือกมาแล้วว่าน่าอ่านสุดๆ ในช่วงนี้
หากโลกนี้ไม่มีหนังสือ (To Read or Not to Read, That is My Question) แปลโดย วีรนาถ โชติพันธุ์

ใครที่ชอบผลงานของจิมมี่ เลี่ยว (Jimmy Liao) และเป็นคนรักการอ่านจะต้องชอบหนังสือเล่มนี้ ในยุคที่ร้านหนังสือทยอยปิดตัวลง หมายความว่าคนให้ความสำคัญกับหนังสือน้อยลงรึเปล่า การอ่านจะยังมีค่าต่อมนุษย์อยู่ไหม คุณอาจจะพบคำตอบในหนังสือเล่มนี้
สำนักพิมพ์ A Book ราคา 350 บาท สั่งซื้อได้ ที่นี่
ในหนังมีเพลง โดย ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์

นี่ไม่ใช่หนังสือเกี่ยวกับเพลงที่มีอยู่ในภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกและเรื่องราวที่ปรากฏอยู่ในเพลง ที่ชวนให้นึกถึงสัจธรรมของความเป็นมนุษย์ อย่างที่คนชอบพูดกันแหละว่าเพลงคือภาษาสากล แม้เนื้อร้องและท่วงทำนองจะแตกต่างกันไปในแต่ละชาติ แต่มนุษย์ก็ล้วนประสบชะตากรรมคล้ายๆกัน
สำนักพิมพ์ คอมม่อน (commonbooks) ราคา 300 บาท สั่งซื้อได้ ที่นี่
ส่องวัฒนธรรมโซเชียลมีเดีย ผ่านมานุษยวิทยาดิจิทัล โดย Daniel Miller และคณะ แปลโดย ฐณฐ จินดานนท์

หนังสือที่ว่าด้วยผลงานของคณะวิจัยจาก University College London ที่ลงสนามทำการศึกษาในพื้นที่ 9 แห่งทั่วโลก เพื่อหาเหตุผลว่าทำไมคนถึงชอบส่งรูปดอกไม้พร้อมข้อความสวัสดีวันจันทร์ หรือทำไมบางคนจึงชอบโพสต์ในโซเชียลมีเดียรัวๆ
สำนักพิมพ์ Bookscape ราคา 395 บาท สั่งซื้อได้ ที่นี่
บันทึก/คนขาย/หนังสือ (The Diary of a Bookseller) โดย Shaun Bythell แปลโดย ศรรวริศา

เรื่องราวในชีวิตประจำวันของคนขายหนังสือหัวร้อนที่ดื้อที่สุด ที่ต้องประคับประคองร้านให้อยู่รอดในยุคปัจจุบันที่ร้านหนังสือพากันปิดตัว แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ นี่คือหนังสือที่ว่าด้วยชีวิตที่ไม่ง่ายเลยของคนรักหนังสือคนหนึ่ง ที่มีความละมุนและขมขี่นอยู่ในที
สำนักพิมพ์ กำมะหยี่ ราคา 420 บาท สั่งซื้อได้ ที่นี่
วอลเดน โดย Henry David Thoreau แปลโดย สุริยฉัตร ชัยมงคล

แม้จะเขียนไว้ตั้งแต่ปีค.ศ. 1854 แต่หนังสือเรื่อง Walden โดยเฮนรี่ เดวิด ธอโรนี้กลับเข้ากับยุคสมัยนี้ได้อย่างเหลือเชื่อ เพราะท้ายที่สุดแล้ว มนุษย์เราย่อมโหยหาธรรมชาติ และหนังสือเล่มนี้ก็คือ “กุญแจ” สู่ธรรมชาตินั่นเอง
สำนักพิมพ์ ทับหนังสือ (ปกแข็ง) ราคา 480 บาท สั่งซื้อได้ ที่นี่