fbpx

“กล้าที่จะแปลก และสนุกกับชีวิต” บทเรียนสำคัญจากนักเขียน Eat Pray Love

4 ข้อคิดที่ได้จากหนังสือเรื่อง Big magic หรือ พลังวิเศษของคนธรรมดา ของ Elizabeth Gilbert จะช่วยปลุกพลังความกล้า และช่วยให้คุณเข้าใจสัจธรรมในชีวิตนี้มากขึ้น

ในหนังสือเรื่อง  Big magic หรือ พลังวิเศษของคนธรรมดา Elizabeth Gilbert ซึ่งเป็นผู้เขียนได้ให้ความหมายของ “การใช้ชีวิตสร้างสรรค์” ไว้ว่า “การใช้ชีวิตสร้างสรรค์ ไม่ได้หมายถึง การใช้ชีวิตหรืออาชีพเกี่ยวกับศิลปะเท่านั้น แต่คือการดำเนินชีวิตอย่างอยากรู้อยากเห็น ไม่ใช่หวาดกลัว แม้เส้นทางและผลลัพธ์ของแต่ละคนจะแตกต่างกัน แต่ชีวิตที่สร้างสรรค์ก็ยังเป็นชีวิตที่มีความสุข หลากหลาย และน่าสนใจมากกว่าชีวิตธรรมดา”

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะทำงานอาชีพอะไร หรือยู่ในวงการไหนก็ตามบนโลกใบนี้ หนังสือเล่มนี้จะเป็นเหมือนแรงกระตุ้นและช่วยผลักดันให้คุณกล้าสร้างสรรค์ผลงานที่ดีออกมา ลองอ่านและคิดตามวิธีที่มหัศจรรย์ของ Elizabeth Gilbert และอย่าเพิ่งรีบตัดสินว่ามันจะต้องน่าเบื่อ เพราะเรื่องราวที่เธอยกเป็นประสบการณ์ตัวอย่างในหนังสือมันทั้งเห็นภาพ และเข้าใจง่าย บางบทก็มีความน่าขัน บางบทก็เรียบง่ายแต่น่าประทับใจ

สิ่งที่เธอเขียนอาจไม่แตกต่างกับปัญหาที่เราเจอแบบวนลูปอยู่ตลอดเวลา แต่ที่แตกต่างคือ วิธีคิดและพลังบวกมหาศาลในตัวเธอที่ใช้ปลอบประโลมตัวเอง และมองโลกใบนี้อย่างเข้าใจ ในบทความนี้เราจึงนำเสนอการสร้างพลังวิเศษให้กับตัวเองในแบบฉบับของ Elizabeth Gilbert เพื่อให้คุณดึงพลังที่มีอยู่ในตัวออกมาใช้สร้างสรรค์ชีวิตตามที่ใจคุณปรารถนา

สร้างพื้นที่กว้าง ๆ ให้กับความกลัวและความกล้า

สร้างพื้นที่กว้าง ๆ ให้กับความกลัวและความกล้า-Big magic
Photo by Jakob Owens on Unsplash

บนโลกใบนี้มีความกลัวมากมายเกิดขึ้นกับคนนับไม่ถ้วน ความกลัวประเภทที่จะปิดกั้นคุณจากการใช้ชีวิตสร้างสรรค์ก็มีไม่น้อย บางคนกลัวว่าตัวเองจะไม่มีพรสวรรค์ กลัวการถูกปฏิเสธ ถูกล้อเลียน ถูกวิจารณ์ หรือถูกเมินในสิ่งที่ทำ บางคนกลัวว่าตัวเองจะไม่เคยสร้างผลงานดี ๆ ออกมาเลย และบางคนก็กลัวว่าการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์เป็นเรื่องเสียเวลา เสียเงิน และเปล่าประโยชน์ 

ซึ่งความจริงแล้ว มนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับความกลัวพื้นฐานที่เหมือนกันหมด  ความกลัวเป็นสัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์ มันเป็นส่วนหนึ่งของเราตั้งแต่อยู่ในท้องแม่  และมันจำเป็นสำหรับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต แต่อย่าเพิ่งตัดสินมันในแง่ลบไปซะทั้งหมด เพราะความกลัวก็มีทั้งที่จำเป็น และไม่จำเป็นอยู่เหมือนกัน

ในขณะเดียวกัน แม้ความกล้าจะเป็นคุณสมบัติที่ดีสำหรับการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องไม่กลัวอะไรเลย เพราะคนที่ไม่กลัวอะไรเลยอาจเป็นคนที่ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าอะไรคือสิ่งที่น่ากลัว ดังนั้น ในบางครั้งคุณก็ต้องพึ่งพิงความกลัวเพื่อปกป้องตัวเองจากอันตรายที่แท้จริง แต่ถึงคุณเลือกที่จะกำจัดมันทั้งหมด มันก็จะโผล่มาอีกครั้งตอนที่คุณคิดความสร้างสรรค์บางอย่างขึ้นมาได้ เพราะการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ทำให้คุณต้องก้าวไปสู่โลกใหม่ที่ยังไม่รู้ผลลัพธ์แน่นอน ความกลัวจึงต้องทำหน้าที่ของมัน นั่นคือการปกป้องคุณไว้

ในการจะใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ซึ่งเป็นหนทางที่ไม่แน่นอนนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในก้าวแรก คือ ความกล้า เพราะหากปราศจากความกล้า คุณก็จะไม่มีวันรู้ว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง ไม่มีวันรู้จักโลกนี้อย่างลึกซึ้งตามที่ควรจะเป็น และชีวิตก็คงจะด้อยค่ากว่าที่หวังไว้ 

หลายคนพยายามกำจัดความกลัว แต่กลับลงเอยด้วยการฆ่าความคิดสร้างสรรค์ไปโดยไม่ตั้งใจ ทางออกของเรื่องนี้คือการไม่พยายามกำจัดความกลัว ไม่ทำสงครามกับมัน และพยายามสร้างพื้นที่กว้าง ๆ ให้มันอยู่ในทุก ๆ วันของชีวิต ความกลัวและความสร้างสรรค์ต่างก็มีหน้าที่ของมัน ปล่อยให้ความกลัวเป็นสมาชิกอีกคนที่ออกเดินทางร่วมไปกับตัวคุณ แต่ให้ใช้ความกล้าและความคิดสร้างสรรค์ตัดสินใจทุกอย่างตลอดการเดินทาง

เชื่อว่าแรงบันดาลใจเข้าสิงคนได้

เชื่อว่าแรงบันดาลใจเข้าสิงคนได้-Big Magic
Photo by iSAW Company on Unsplash

ชาวกรีกและชาวโรมันต่างเชื่อว่าแรงบันดาลใจเข้าสิงคนได้ ชาวโรมันมีชื่อเรียกมันด้วยชื่อเฉพาะเจาะจงว่าเทพแห่งปัญญา เทพแห่งแรงบันดาลใจ ชาวโรมันจึงไม่เชื่อว่าคนที่มีพรสวรรค์เป็นอัจฉริยะมาแต่กำเนิด แต่เชื่อว่าพวกเขาถูกแรงบันดาลใจเข้าสิง

ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีตัวตนให้จับต้อง ความคิดสร้างสรรค์จะเฝ้าตามหามนุษย์ที่เหมาะจะทำงานร่วมกับมัน ความคิดสร้างสรรค์มีความคิดความรู้สึก และจุดมุ่งหมายเป็นของตัวเอง ความคิดสร้างสรรค์เคลื่อนที่จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนได้ และความคิดสร้างสรรค์พยายามหาช่องทางที่รวดเร็วที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดเพื่อปรากฏตัวบนโลก  

ความคิดสร้างสรรค์มักจะวนเวียนอยู่รอบตัวเรา เฝ้าตามหามนุษย์คู่หูที่เหมาะสมและเต็มใจจะร่วมมือกับมัน ถ้ามันรู้สึกว่าคุณคือคนที่ใช่ มันก็จะวิ่งเข้าหาคุณ พยายามเรียกร้องความสนใจจากคุณ แต่ส่วนใหญ่แล้วคุณมักจะไม่รู้ตัวเพราะมัวยุ่งกับเรื่องต่าง ๆ ของตัวเอง เมื่อมันพยายามโบกมือเรียกคุณ และเห็นแล้วว่าคุณไม่สนใจมันแน่ ๆ มันก็จะจากไปหาคนอื่น  มันจะไม่อยู่รอคุณที่เดิมตลอดเวลา นี่แหละคือสิ่งสำคัญที่สุดเกี่ยวกับแรงบันดาลใจลึกลับในการสร้างสรรค์งาน … 

ดังนั้น ถ้าเริ่มรู้ตัวว่าแรงบันดาลใจมาทักทายคุณแล้ว ก็จงรีบคว้ามันไว้ ลงมือทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่มันจะโบยบินไปหาคนอื่น แต่ถ้ามันจากคุณไปแล้วจริง ๆ มันก็คงถึงตาที่คุณต้องออกตามหาแรงบันดาลใจเองแล้ว บางทีมันอาจรอให้คุณค้นพบอยู่ที่ไหนสักที่ และการตามหาแรงบันดาลใจที่ดีที่สุดก็คือการลงมือทำ ทำไปเรื่อย ๆ ทำอย่างสม่ำเสมอ ให้แรงบันดาลใจได้เชื่อใจในความพยายามของคุณที่อยากจะร่วมมือกับมัน

อาจคิดว่านี่เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ และไม่สมเหตุสมผลก็ได้ แต่ข้อดีหนึ่งในการมองว่าแรงบันดาลใจเป็นสิ่งที่อยู่ภายนอกทำให้คุณไม่หลงตัวเองจนเกินเหตุ เพราะอ้างสิทธิในผลงานได้ไม่เต็มที่ และไม่สามารถตำหนิตัวเองได้เต็มที่เหมือนกัน หรือก็คือ ถ้าผลงานออกมาดี คุณก็ต้องขอบคุณแรงบันดาลใจที่ช่วยเหลือคุณ ซึ่งทำให้คุณไม่หลงตัวเองมากเกินไป แต่ถ้าผลงานล้มเหลวคุณก็อาจจะโทษที่แรงบันดาลใจไม่มาหาคุณก็ได้

ใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์

ใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์-Big Magic
Photo by Thomas Le on Unsplash

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นนักสร้างสรรค์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เราสัมผัสถึงมันได้ เราสนใจใคร่รู้เกี่ยวกับมัน เราทุกคนล้วนสืบเชื้อสายมาจากนักสร้างสรรค์หลายต่อหลายรุ่นตลอดเวลาหลายหมื่นปี  ลองมองย้อนกลับไปที่ครอบครัวของเราในอดีต ดูชีวิตปู่ย่าตายาย มองย้อนกลับไปจนถึงรุ่นทวด ลองดูชีวิตบรรพบุรุษที่เป็นคนรุ่นแรก ๆ มองย้อนกลับไปจนกว่าคุณจะเจอบรรพบุรุษสักคนในตระกูลที่ไม่ได้นั่ง ๆ นอน ๆ รอให้สิ่งที่น่าสนใจเกิดขึ้น นั่นแหละคือจุดกำเนิดของคุณ จุดกำเนิดของเราทุกคน

การใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ คือการทำในสิ่งที่ชอบ เดินตามในเส้นทางของตัวเอง การเชื่อในตัวเองว่าสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ รักษาตัวตนของตัวเองเอาไว้ และจำไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องขออนุญาตใครเพื่อที่จะมีชีวิตในแบบที่คุณต้องการ ต่อให้คนรอบข้างหรือสังคมรอบกายของคุณอาจจะเป็นพวกไม่ชอบสร้างสรรค์อะไรทั้งสิ้นก็ตาม 

ตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา มนุษย์เราสร้างผลงานที่งดงามเหลือเชื่อไว้มากมาย แต่ก็มีอีกมากมายที่ไม่เข้าตาคนมองด้วยซ้ำ ผลงานมากมายเกิดขึ้นแค่เพราะคนเราอยากหาอะไรทำแก้เบื่อ ถ้าคุณอยากเขียนหนังสือ อยากแต่งเพลง อยากเต้นรำ อยากร้องเพลง อยากกำกับหนัง อยากวาดรูปบนผนังบ้านตัวเอง มันก็เป็นสิทธิโดยกำเนิดของมนุษย์เราอยู่แล้ว

สิทธิ อาจฟังดูเป็นเรื่องในทางลบ แต่ถ้คุณอยากมีอิสระที่จะใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ คุณก็ต้องเชื่อหมดใจว่าคุณมีสิทธิทำเช่นนั้นได้ ถ้าคุณไม่เชื่อว่าตัวเองมีสิทธิ คุณก็อาจจะไม่แม้แต่จะลองทำเลยด้วยซ้ำ การมีสิทธิในการสร้างสรรค์ไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องทำตัวสูงส่งเหนือผู้คนทั้งโลก แต่คือการเชื่อว่าคุณได้รับอนุญาตให้อยู่ตรงนี้ คุณมีสิทธิแสดงความคิดเห็นและมุมมองของตัวเอง เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะเลือกทำอะไร ขอให้สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่คุณรัก ขอให้คุณได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในแบบที่เหมาะกับตัวเองที่สุด และทำให้ตัวคุณมีชีวิตชีวามากที่สุด 

จะรู้ได้อย่างไรว่านั่นคือสิ่งที่คุณรัก ? สิ่ง ๆ นั้นทำให้คุณสนุก ช่วยเยียวยาจิตใจคุณ ทำให้คุณรู้สึกหลงใหล ทำให้คุณได้ชีวิตกลับคืนมา มันอาจเป็นแค่งานอดิเรกช่วยคลายเครียด แต่เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว และต่อให้งานของคุณไม่มีประโยชน์อะไรเลยก็ไม่เป็นไร มันไม่ใช่ปัญหา ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ไม่มีปัญหาทั้งนั้น แค่สร้างผลงานบางอย่างเพื่อความสุขของตัวเองก็เพียงพอแล้ว แล้วทุกอย่างจะดีเอง

และถ้ากลัวว่าแรงบันดาลใจหรือสิ่งที่คุณทำจะซ้ำกับคนอื่น ขอให้รู้ไว้ว่าความคิดสร้างสรรค์ส่วนใหญ่มีคนเคยทำมาแล้วทั้งนั้น แต่มันยังไม่เคยถูกสร้างสรรค์โดยคุณ เมื่อคุณใส่มุมมองและความรู้สึกลงไป ความคิดสร้างสรรค์นั้นก็จะเป็นของคุณ ความสร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องช่วยคนอื่นได้ แต่มันจำเป็นต้องช่วยคุณได้ ช่วยให้คุณสบายใจ ช่วยปลดปล่อยคุณจากปมปัญหาในใจ คุณแค่ต้องทำเพื่อตอบสนองความต้องการส่วนตัว ทำเพื่อความสุขของตัวเองก็เพียงพอแล้ว

ความสมบูรณ์แบบ ศัตรูของความเป็นไปได้และความสนุก

ความสมบูรณ์แบบ ศัตรูของความเป็นไปได้และความสนุก-Big Magic
Photo by Drew Graham on Unsplash

เมื่อคุณเลือกใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ในแบบของคุณ มีสิ่งหนึ่งที่คุณต้องเข้าใจ นั่นคือ ความสำเร็จเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของคุณ แต่การฝึกฝนสิ่งใดก็ตาม จะทำให้คุณเก่งขึ้นในสิ่งนั้นเสมอ และการฝึกฝนก็ไม่ได้ถูกกำหนดว่าจะต้องเริ่มเมื่ออายุยังน้อยเท่านั้น ไม่เคยมีคำว่าสายเกินไป คนเก่ง ๆ ที่เพิ่งเริ่มทำงานสร้างสรรค์เมื่ออายุมากแล้วก็มี บางคนเริ่มสร้างผลงานเมื่ออายุล่วงเลยไปไกลแล้วด้วยซ้ำ คุณจะเริ่มต้นไล่ตามชีวิตสร้างสรรค์และสิ่งที่คุณหลงใหลตอนไหนก็ได้เมื่อคุณตัดสินใจจะลงมือ และในเมื่อไม่มีใครรู้ว่าเวลาไหนคือจังหวะที่เหมาะสมที่สุด เราจึงต้องเพิ่มโอกาสของตัวเองให้มากเข้าไว้ พยายามเต็มที่แม้โอกาสจะน้อยนิด ดื้อดึงเดินหน้าต่อไปอย่างสดใส และพยายามซ้ำอีกครั้ง และอีกครั้ง เพื่อให้คุณทำได้ดีขึ้น ไม่ใช่สมบูรณ์แบบ

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของความสมบูรณ์แบบคือ มันถูกมองว่าเป็นคุณสมบัติที่ดีอย่างหนึ่ง ซึ่งแท้จริงแล้วมันคืออุปสรรคขัดขวางไม่ให้ได้รื่นรมณ์กับการสร้างสรรค์งานต่างหาก หลายคนทำเหมือนว่าความสมบูรณ์แบบเป็นเหรียญตราที่ต้องประทับไว้บนบ่า ความสมบูรณ์แบบมักวางท่าสง่างามทั้งที่ในใจรู้สึกกลัว ความสมบูรณ์แบบคือความวิตกกังวลที่กำลังพูดกับเราซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า “ฉันไม่ดีพอ และคงไม่มีวันดีพอ”

การใฝ่ฝันถึงความสมบูรณ์แบบ เป็นความคิดที่บั่นทอนตัวเองและทำให้เราเสียเวลาโดยใช่เหตุ หลายคนไม่กล้าแสดงพรสวรรค์และความสามารถของตัวเอง เพราะเชื่อว่าไม่ควรแสดงตัวตน จนกว่าตัวเองและผลงานจะเป็นที่ยอมรับว่าสมบูรณ์แบบเหนือคำวิพากษ์วิจารณ์ใด ๆ ทั้งที่ความจริงแล้ว ไม่มีอะไรในโลกที่จะหนีรอดคำวิพากษ์วิจารณ์ไปได้ ไม่ว่าคุณจะทุ่มเทเพื่อสร้างผลงานอันไร้ที่ติสักเท่าไหร่ สุดท้ายก็ยังจะมีคนที่พบข้อผิดพลาดจนได้อยู่ดี ในขณะเดียวกันคนส่วนน้อยที่กล้าเปิดเผยตัวตนและผลงานของตัวเอง ทั้งที่อาจจะมีคุณสมบัติแค่ไม่ถึงครึ่งของความสมบูรณ์ทั้งหมด กลับไปได้สวย พวกเขาสามารถกระโดดข้ามตัวชี้วัดศักยภาพทุกอย่างได้ด้วยความมั่นใจ 

ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ พอถึงจุดหนึ่งคุณก็ต้องยอมหยุด และปล่อยผลงานคุณออกไป อย่างน้อยก็เพื่อให้ตัวเองเป็นอิสระที่จะทำผลงานชิ้นใหม่ หยุดใฝ่หาความสมบูรณ์แบบ แล้วพอใจกับความก้าวหน้าแม้เพียงเศษเสี้ยว  ผลลัพธ์ไม่ได้สำคัญ ในเมื่อเสียงในใจเรียกร้องให้คุณลงมือสร้างสรรค์อะไรบางอย่าง คุณก็ต้องลงมือทำไปตามนั้น เพื่อเติมเต็มศักยภาพที่มีอยู่ในตัว คำปฏิเสธว่า “ไม่” ในวันนี้ อาจไม่ได้แปลว่า “ไม่” เสมอไปในวันหน้า วันหนึ่งโชคชะตาอาจจะพลิกผันสำหรับคนที่ไม่ย่อท้อก็ได้

มุมมองและประสบการณ์ของ  Elizabeth Gilbert ยังมีอีกมากมายในหนังสือ  Big magic หรือ พลังวิเศษของคนธรรมดา มันอาจช่วยให้คุณในตอนนี้ที่กำลังหดหู่ นั่งอยู่กับความทุกข์และไม่ไว้ใจความสุข ค้นพบอะไรบางอย่างขึ้นมาก็ได้ แม้จะแค่เศษเสี้ยวหรือเป็นจุดเล็ก ๆ เท่าไข่ปลา แต่แค่นั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว หาซื้อหนังสือเรื่องนี้ได้ที่นี่

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin
Share on pinterest

More to explore

แผลเก่า:Old Wound แผลเดิมในเรื่องเล่า ที่ยังเป็นแผลสดของพล็อตสังคมไทย

นิทรรศการ แผลเก่า / Old Wound นิทรรศการเดี่ยวโดย ประทีป สุธาทองไทย ศิลปินนักตั้งคำถาม ผู้ซ่อนบทสนทนาทางสังคมไว้ในงานเสมอ

“Yesterday I Was, Tomorrow I Will Be” นิทรรศการแห่งความฝันและความสำเร็จของ “Pomme Chan”

ก้าวสู่โลกที่เปี่ยมไปด้วยแพชชั่น ผ่านผลงานศิลปะตั้งแต่ชิ้นแรกที่น้อยคนจะได้เห็น สู่วันที่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพร่วมระยะเวลา 20 ปี