fbpx

มหาสมุทร หินน้อยใหญ่และสถาปัตยกรรมกลิ่นอายเวียดนามที่ Amanoi

เมื่อพื้นที่บนอ่าว Vinh Hy ซึ่งสวยแปลกตาที่สุดแห่งหนึ่งในชายฝั่งทะเลเวียดนามเจอกับสุดยอดดีไซน์ในแบบของ Aman

ตามเราข้ามชายฝั่งมาที่ริมชายฝั่งทะเลจีนใต้ในจังหวัด Ninh Thuan ที่ตั้งของรีสอร์ทแห่งเดียวของ Aman ในเวียดนามซึ่งถูกให้ชื่อว่า Amanoi มาจากชื่อของแบรนด์เองซึ่งแปลว่า ‘สงบ’ และ ‘noi’ ในภาษาเวียดนามซึ่งแปลว่า ‘สถานที่’ รวมเป็น ‘สถานที่แห่งความสงบ’ 

ดูเหมือนความสงบที่ว่าจะไม่ใช่การกล่าวเกินจริง ด้วยสถานที่ตั้งที่ห่างจากสนามบินนานาชาติคัมรัญถึง 80 นาทีโดยรถยนต์ Amanoi ครอบครองพื้นที่ภูเขาริมอ่าว Vinh Hy ซึ่งอยู่ชิดกับเขตอุทยานแห่งชาติซึ่งพ่วงมาด้วยความสงบเงียบขนาดที่ถ้านั่งอยู่ริมระเบียงของห้องพักแล้วหลับตา คุณจะได้ยินเพียงเสียงของเรือประมงลำเล็ก นกร้อง และใบไม้พลิ้วไหวเท่านั้น 

ความสงบที่ว่ายังเป็นองค์ประกอบที่ขับให้ดีไซน์ของรีสอร์ทอันเรียบเข้มผ่านฝีมือ Jean-michel Gathy สถาปนิกเลือดเบลเยียม สวยกลมกล่อมขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว Jean-michel Gathy ผู้เคยรังสรรค์ผลงานชวนอ้าปากค้างมาแล้วทั้ง Aman Summer Palace ที่ปักกิ่งและ The Chedi Muscat ที่โอมาน ได้ดึงเอารายละเอียดของสถาปัตยกรรมเวียดนามร่วมสมัยมาจัดวางได้กลมกลืนกับฉากหลังที่อุดมทั้งพืชพรรณแปลกตาจากภูมิอากาศร้อนชื้นกึ่งทะเลทราย หินใหญ่ตระการตาที่กระจายตัวอยู่ทั่ว และวิวทะเลจีนใต้สุดลูกหูลูกตา ตบท้ายด้วยการใช้องค์ประกอบจำเป็นของรีสอร์ทหรูอย่างสระว่ายน้ำและระเบียงต่างๆเป็นตัวชูโรงให้ภาพที่เห็นอลังการมากขึ้น

ผังรีสอร์ทที่เอื้อต่อความงามแบบเฉพาะตัวของพื้นที่

ลักษณะเฉพาะตัวของพื้นที่กว้างขวางที่มีทั้งภูเขา บึงใหญ่ หน้าผา และทะเลมีผลต่อการเลือกวางตำแหน่งแต่ละ Facilities ในรีสอร์ท ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในการเลือกจุดที่ตั้งสิ่งก่อสร้างอย่างชาญฉลาดคือการสร้าง Aman Spa ไว้ชิดกับบึงใหญ่กลางรีสอร์ทเพื่อให้แขกที่มาใช้บริการสปาและโยคะสตูดิโอรู้สึกผ่อนคลายจากการทอดสายตาไปบนพื้นน้ำ ถือเป็นอีกโลกหนึ่งที่เพิ่มอีกรสเพื่อตัดเลี่ยนจากวิวภูเขาริมทะเล 

อีกตัวอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือพาวิลเลียนกลางของรีสอร์ทที่ใช้เป็นทั้งบริเวณต้อนรับแขกและร้านอาหารหลัก อาคารหลังคาสูงทรงแหลมแบบเวียดนามแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดภูเขาซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดของรีสอร์ท ดังนั้นจึงเหมาะสมที่สุดต่อเป็นจุดต้อนรับเพื่อให้แขกได้ตะลึงกับวิวทะเลและภูเขาหินหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางนับชั่วโมงจากสนามบินและยังต้องเดินขึ้นบันไดถึง 2 ช่วงจากจุดจอดรถ

ณ จุดนี้เอง จากการที่เราได้มาทานข้าวเช้าที่ห้องอาหารบนพาวิลเลียนแห่งนี้เกือบทุกวัน เราสังเกตได้ถึงอีกหนึ่งความลงตัวของการผสมรายละเอียดการตกแต่งแบบเวียดนามเข้ากับธรรมชาติที่รายล้อมพื้นที่ได้อย่างแนบเนียน Jean-michel Gathy เลือกใช้ระแนงไม้ซี่แบบเวียดนามแทนผนังทึบเพื่อให้แขกสามารถมองลอดผ่านไปช่องไม้ไปยังมหาสมุทรและภูเขาที่อยู่รอบพาวิลเลียนได้ขณะรับประทานอาหาร

ห้องพักตกแต่งเรียบขรึมแต่อุดมไปด้วยกลิ่นของเวียดนาม

Amanoi ใช้คำว่า ‘Guest Pavillion’ ในการเรียกห้องพัก ทั้ง 31 ห้องซึ่งตั้งกระจายและลดหลั่นไปตามระดับของภูเขาโดยมีทั้งห้องที่มองเห็นวิวทะเลและวิวภูเขาเขียวชอุ่ม ทั้งหมดใช้หลังคากระเบื้องสีเทาเพื่อให้กลมกลืนกับสีก้อนหินในพื้นที่ 

การตกแต่งภายในห้องได้แรงบันดาลใจจากบ้านชาวเวียดนามในชนบทซึ่งมุงหลังคาได้สวยแบบเฉพาะตัว มองดูคล้ายการมุงหลังคาด้วยหญ้าคาหรือใบจาก ทว่าเป็นเวอร์ชั่นที่ดูแข็งแรงและเป็นระเบียบตามแบบฉบับ Aman ทั้งประตูเลื่อนและหน้าต่างที่ตกแต่งด้วยไม้ขัดแตะกันเป็นตาราง ม่านบังแสงแบบม้วนทำจากไม้ไผ่ พื้นซีเมนต์ทาสีดำสลับกับพื้นไม้ และผนังกั้นห้องน้ำซึ่งทำพากหวายสานทาสีดำ ล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบแบบบ้านในชนบทเวียดนามที่ถูกนำมาปรับให้ดูหรูและขรึมขึ้นตามรูปแบบของ Aman 

ทั้งนี้เมื่อรายละเอียดทั้งหมดที่ว่ามาอยู่รวมกันก็ไม่ได้ทำให้ห้องดูเข้มขรึมจนเกินไปเพราะผู้ออกแบบยังได้เพิ่มลูกเล่นที่เติมความอ่อนโยนให้กับห้องด้วยโคมไฟผ้าทรงกระบอกยาวสีแดงที่ 4 มุมเสากลางห้อง บรรดาปลอกหมอนทำจากไหมดิบสีเหลืองทอง และส่วนที่สำคัญที่สุดคือลวดลายดอกบัวบนผนังหัวเตียงนอนซึ่งเป็นลวดลายเดียวกับที่มักใช้ในวัดทั่วเวียดนามเพื่อสื่อถึง ‘การตรัสรู้’

Tips: 
Amanoi มีกิจกรรมมากมายให้แขกผู้เข้าพักได้เลือกทำซึ่งเกือบทั้งหมดจัดขึ้นในพื้นที่ที่ถูกคิดมาแล้วว่าแขกสามารถชื่นชมวิวสวยที่อยู่ตรงนี้ได้ไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนทำอาหารใน Rock Studio ซ่อนตัวอยู่ระหว่างหินโสโครกก้อนยักษ์ ว่ายน้ำในสระ Cliff Pool ที่มองเห็นวิวทะเลได้พร้อมกันถึงสองฝั่ง ทานอาหารว่างและเล่นกีฬาทางที่ Beach Club บนหาดส่วนตัวของรีสอร์ท และโยคะในศาลากลางบึงใหญ่ เป็นต้น

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Amanoi

ภาพ: Aman Resorts

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin
Share on pinterest

More to explore

แผลเก่า:Old Wound แผลเดิมในเรื่องเล่า ที่ยังเป็นแผลสดของพล็อตสังคมไทย

นิทรรศการ แผลเก่า / Old Wound นิทรรศการเดี่ยวโดย ประทีป สุธาทองไทย ศิลปินนักตั้งคำถาม ผู้ซ่อนบทสนทนาทางสังคมไว้ในงานเสมอ

“Yesterday I Was, Tomorrow I Will Be” นิทรรศการแห่งความฝันและความสำเร็จของ “Pomme Chan”

ก้าวสู่โลกที่เปี่ยมไปด้วยแพชชั่น ผ่านผลงานศิลปะตั้งแต่ชิ้นแรกที่น้อยคนจะได้เห็น สู่วันที่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพร่วมระยะเวลา 20 ปี