เรียกได้ว่าเป็นข่าวใหญ่ทีเดียวสำหรับประเทศญี่ปุ่น เมื่อบริษัท Microsoft Japan เผยถึงผลการทดลองล่าสุด ในการดำเนินนโยบาย “ทำงานสี่วัน” และผลปรากฏว่าทำให้ผลิตภาพหรือ productivity ในการทำงานของพนักงานจะเพิ่มขึ้นถึง 40%
ประเทศญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ “บ้างาน” ที่สุดในโลก โดยนอกจากจะมีช่วงเวลาทำงานที่ยาวนานกว่าชาวบ้านแล้ว จากการสำรวจโดยรัฐบาลญี่ปุ่นในปีค.ศ. 2016 พบว่าหนึ่งในสี่ของบริษัทญี่ปุ่นกำหนดให้พนักงานทำงานล่วงเวลามากกว่า 80 ชั่วโมงต่อเดือน (และทำฟรีซะส่วนใหญ่) ไม่แปลกเลยที่ญี่ปุ่นจะมีศัพท์เฉพาะอย่างคำว่า karoshi ที่แปลกว่าการเสียชีวิตจากการทำงานหนัก แต่แม้จะทำงานหนักแค่ไหน ข้อมูลจาก OECD Compendium of Productivity Indicators ชี้ว่าประสิทธิผลในการทำงานของญี่ปุ่นกลับต่ำสุดในบรรดาประเทศ G-7 นั่นแปลว่าการทำงานหนักไม่ได้หมายถึงประสิทธิผลเสมอไป
และนี่คือที่มาของการทดลองของ Microsoft Japan ที่ชื่อว่า Work-Life Choice Challenge Summer 2019 ที่ให้พนักงาน 2,300 คนหยุดงานวันศุกร์ติดต่อกัน 5 สัปดาห์โดยไม่หักเงินเดือน ซึ่งผลปรากฏว่านอกจากประสิทธิภาพการทำงานจะเพิ่มขึ้น 40% แล้ว ยังทำให้พนักงานหยุดงานน้อยลง 25% ลดการใช้ไฟฟ้าได้มากถึง 23% แถมยังทำให้พนักงานปรินต์เอกสารน้อยลง 59% นอกจากนี้ การช่วงเวลางานต่อสัปดาห์ที่น้อยลงยังทำให้การประชุมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และทำให้พนักงานมีความสุขมากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งผลก็สอดคล้องกับผลวิจัยที่ตีพิมพ์โดย Harvard Business Review ที่ชี้ให้เห็นว่าวันทำงานที่น้อยลง (ลดจาก 8 ชั่วโมงมาเป็น 6 ชั่วโมงต่อวัน) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น
แม้จะดูเป็นเรื่องแปลกใหม่ในญี่ปุ่น นโยบายทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์นี้มีมานานแล้ว ประเทศฝรั่งเศสได้เริ่มลดชั่วโมงการทำงานมาตั้งแต่ยี่สิบปีที่แล้วเพื่อสร้างไลฟ์สไตล์ที่สมดุลให้แก่ประชากร ส่วนเนเธอร์แลนด์นั้น ชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์โดยประมาณอยู่ที่ 29 ชั่วโมงเท่านั้น
อ้างอิง:
https://www.cnbc.com/2018/06/01/japan-has-some-of-the-longest-working-hours-in-the-world-its-trying-to-change.html
https://www.theguardian.com/technology/2019/nov/04/microsoft-japan-four-day-work-week-productivity