โซเชียลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์มจริงๆ มีความแตกต่างกันมาก ตั้งแต่วิธีการใช้งาน กลุ่มคนที่ใช้ ไปจนถึงช่วงเวลาที่ควรโพสต์ ฯลฯ แรกๆ คุณอาจคิดว่า “ฉันจะต้องช่ำชองให้หมดทุกแพลทฟอร์ม” เพราะคุณอยากจะเข้าถึงแฟนๆ ให้ได้มากที่สุด แต่ในโลกความเป็นจริงแล้วคุณทำไม่ได้หรอก! และไม่ควรจะทำด้วย!
กลยุทธ์การเลือกใช้โซเชียลมีเดียที่ถูกต้องนั้นขึ้นอยู่กับ
1) แนวทางการสร้างอาชีพและธุรกิจของคุณ
2) บุคลิกภาพและตัวตนของคุณ และ
3) กลุ่มคนที่คุณอยากจะสื่อสารด้วยมากที่สุด
ด้วยโจทย์ตั้งต้นนี้ แน่นอนว่าบางแพลทฟอร์มก็จะเหมาะกับคุณมากกว่าอย่างอื่น แถมมันจะเป็นการดีกว่าด้วยที่คุณจะเริ่มต้นกับแค่หนึ่งหรือสองแพลทฟอร์ม แล้วโฟกัสกับมันได้จริงๆ ดีกว่าดิ้นรนทำทุกสิ่ง แต่ทำได้ไม่สม่ำเสมอ และท้ายที่สุดก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน
เพื่อช่วยคุณสำรวจโลกออนไลน์อันบ้าคลั่งนี้ เราจะพูดกันถึง ‘ข้อดีและข้อเสีย’ ของแต่ละแพลตฟอร์มกันในบทความนี้ เพื่อว่าคุณจะสามารถเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับตัวคุณและวิถีการทำงานของคุณได้ดีที่สุด
เทคนิคการใช้งาน: โพสต์เฉลี่ยวันละครั้ง แต่ต้องโต้ตอบทุกวัน
ข้อดี:
- แชร์โพสต์ได้ทุกประเภทที่เกี่ยวโยงกับการทำมาหากินของคุณ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ, วิดีโอ, ลิงก์เว็บไซต์, คลังภาพผลงาน, พอดคาสต์, บล็อก ฯลฯ
- ลิงก์กับช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ได้ง่าย และสามารถแชร์โพสต์มาจากไอจี ทวิตเตอร์ หรือ Pinterest ได้อีก
- ตั้งเวลาโพสต์ได้ด้วยบัญชีธุรกิจ (แบบไม่ต้องเสียงตังค์) ช่วยประหยัดเวลาและการบริหารจัดการเพจ
- มีข้อมูลเชิงลึกให้เข้าถึงได้ฟรี ทั้งในส่วนแฟนๆ ผู้ติดตามเพจ และผลงานการโพสต์ของคุณด้วย
- มีฐานผู้ใช้จำนวนมากมายมหาศาล
- มีกรุ๊ปคอมมูนิตี้ให้เข้าร่วม ซึ่งเป็นช่องทางให้คุณแชร์ทุกอย่างได้ ตั้งแต่โชว์งาน โชว์เทคนิคการทำงาน ไปจนถึงขายงาน ประมูลงาน ฯลฯ แต่อย่าลืมว่าต้องเคารพกฎของแต่ละกรุ๊ปด้วยล่ะ
- สามารถใส่ข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณได้อย่างเต็มที่ (ใน About section) เช่น ปรัชญาการทำงานศิลป์ของคุณ จะใส่ลิงค์ไปยังเว็บไซต์ส่วนตัวของคุณ หรือช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ของคุณก็ได้เช่นกัน
- ทำให้การขายงานศิลปะง่ายขึ้น ด้วยการมีปุ่ม CTA (Call To Action) ลิงค์ตรงไปยังเว็บไซต์ของคุณได้เลย
- สร้างอัลบั้มภาพโชว์ผลงานได้ แบ่งเป็นคอลเล็กชั่น เป็นซีรีย์ ได้หมด
- เติมคำบรรยายภาพและใส่ดีเทลสำคัญๆ ได้เต็มที่
- สามารถใช้ภาพปกและโพสต์ปักหมุดสำหรับการโปรโมทและทำการตลาด
ข้อเสีย:
- ปฏิสัมพันธ์คือสิ่งจำเป็นที่สุดในเฟสบุ๊ค ละเลยไม่ได้เด็ดขาด
- คุณต้องยอมสละเวลาเพื่อตอบคอมเมนท์ต่างๆ และต้องคอยกดไลค์โพสต์ของคนอื่นด้วย
- ถ้าโพสต์หรือรูปของคุณดูไม่เรียบร้อย ไม่เป๊ะปัง ก็อาจทำให้คน unfollow และบั่นทอนภาพลักษณ์ของคุณ
- อัลกอริธึมโหดขึ้นทุกวัน ถ้าไม่จ่ายเงินก็ยากมากที่โพสต์ของเราจะปรากฏในฟีดของคนอื่นได้
เทคนิคการใช้งาน: โพสต์วันละหลายครั้ง และโต้ตอบทุกวัน
ข้อดี:
- กำหนดเวลาทวีตล่วงหน้าได้ (ผ่านเว็บไซต์การจัดตารางโพสต์)
- การสร้างความสัมพันธ์ผ่านช่องทางนี้มักนำไปสู่การสื่อสารต่อเนื่อง
- โพสต์ได้ทั้งรูปภาพ วิดีโอ และลิงค์
- Hashtag (หรือ keyword) ช่วยให้คนอื่นค้นเจอทวีตของคุณได้
- สามารถจัดระเบียบคนที่คุณติดตามเป็นหมวดหมู่ได้ (เช่น หอศิลป์, ศิลปิน, ธุรกิจศิลปะ) เพื่อสะดวกต่อการติดตามอ่าน
- ใช้ภาพปกและทวีตปักหมุดสำหรับการโปรโมทและทำการตลาดได้
ข้อเสีย:
- ต้องทวีตให้บ่อย มิฉะนั้นคุณจะหายสาบสูญไปจากหน้าฟีดของคนอื่น
- มีการจำกัดตัวอักษรในทวีต ดังนั้นคุณต้องเขียนไบโอและทวีตของคุณให้สั้น
- เป็นแพลทฟอร์มที่อินเตอร์แอคทีฟมาก บางทีอาจจะมากเกินไปสำหรับคน Introvert
เทคนิคการใช้งาน: โพสต์ทุกวันหรือหลายครั้งต่อสัปดาห์ และโต้ตอบทุกวัน
ข้อดี:
- เป็นที่ทราบกันว่านี่คือแพลทฟอร์มที่นักสะสมใช้ในการตามหางานศิลปะ
- เหมาะกับการขายงานศิลปะเนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นภาพ
- การใช้ hashtag ที่ใช่จะช่วยให้ผู้คนค้นเจองานศิลปะของคุณได้ง่าย
- สามารถตั้งโพสต์ล่วงหน้า หรือทำดราฟท์ไว้ก่อนเพื่อโพสต์ภายหลังได้
- โพสต์จากมือถือได้อย่างสะดวก ไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์
- สามารถโชว์ทุกแง่มุมของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นภาพเบื้องหลังการทำงานในสตูดิโอ ผลงานที่กำลังทำอยู่ ฯลฯ
- ทำโฆษณาและรับข้อมูลเชิงลึก (insight) ได้ด้วยบัญชีธุรกิจแบบฟรี
- แชร์โพสต์ไปยัง Facebook และ Twitter ได้ง่าย
ข้อเสีย:
- ใส่ลิงก์ตรงไปยังเว็บไซต์ได้เฉพาะในประวัติของคุณ (bio) ไม่สามารถใส่ลิงค์ในคำบรรยายของโพสต์
- ใช้งานได้สะดวกบนมือถือเท่านั้น
เทคนิคการใช้งาน: ปักหมุดโพสต์วันละสองสามครั้งในช่วงเวลาต่างๆ กัน
ข้อดี:
- เหมาะกับการขายงานศิลปะเนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นภาพ
- บันทึกและจัดระเบียบรูปและลิงก์ลงในบอร์ดต่างๆ ได้ง่าย เช่น ชิ้นงานศิลปะ แรงบันดาลใจ วิธีการซื้อขาย ฯลฯ
- เพิ่มคำอธิบายของคุณลงในรูปภาพที่ปักหมุดได้
- ทำโฆษณาและรับข้อมูลเชิงลึก (insight) ได้ด้วยบัญชีธุรกิจแบบฟรี
- ภาพที่มีลิงค์จะเชื่อมผู้เข้าชมไปยังเว็บไซต์ของคุณ เป็นโอกาสให้เกิดการซื้อขายต่อไป
- มีความเป็นคอมมูนิตี้ของกลุ่มคนทำงานศิลป์และนักสะสม
- ไม่ค่อยต้องอาศัยการปฏิสัมพันธ์มากมาย ถ้าเทียบกับโซเชียลมีเดียอื่น
- สามารถขายของได้ทันทีด้วยหมุด ‘buyable’
ข้อเสีย:
- รูปไม่ปัง คำอธิบายที่ไม่ดี อาจทำให้คุณเสียโอกาสกับลูกค้าในอนาคตไปเลย
- การเข้าถึงบน Pinterest ไม่ค่อยกว้างเหมือนโซเชียลมีเดียอื่น
เทคนิคการใช้งาน: อัพเดทโปรไฟล์และโพสต์ให้เป็นปัจจุบันที่สุด
ข้อดี:
- สามารถเข้าร่วมกลุ่มที่ส่งเสริมโอกาสศิลปินหรือที่เผยแพร่คำแนะนำในการประกอบอาชีพได้
- เป็นช่องทางที่ดีในการเชื่อมโยงกับสมาคม สมาพันธ์ หรือเครือข่ายศิลปินแขนงต่างๆ
- เหมาะกับการสร้างโปรไฟล์ในฐานะศิลปินมืออาชีพ
- ไฮไลท์ความสำเร็จ ทักษะพิเศษ และโครงการที่โดดเด่นของคุณได้
- สามารถแชร์ข้อเขียน ลิงค์เว็บไซต์ รูปภาพ และวิดีโอ
ข้อเสีย:
- ไม่ใช่แพลทฟอร์มที่กลุ่มผู้ซื้อมาตามหางานศิลปะ
- ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ไม่ได้แอคทีฟใน LinkedIn เท่ากับในโซเชียลมีเดียอื่นๆ
- การปฏิสัมพันธ์จำกัดอยู่ในรูปแบบที่เป็นทางการเท่านั้น
ถึงบรรทัดนี้ก็ได้เวลาตัดสินใจแล้ว คุณพอจะตอบคร่าวๆ ได้หรือยังว่า
1) กลุ่มเป้าหมายของคุณ (ลูกค้าในอนาคตของคุณ) เขาแอคทีฟกันมากที่สุดบนโซเชียลมีเดียไหน?
2) คุณต้องการจะมีพื้นที่สำหรับการเขียนบล็อกให้เป็นเรื่องเป็นราวรึเปล่า?
3) คุณกังวลเรื่องการต้องพูดคุยโต้ตอบ คอมเมนท์ กดไลค์ กดแชร์ อยู่ตลอดเวลาไหม?
4) คุณมีเวลาและความพยายามมากน้อยแค่ไหนในการโพสต์?
การถามคำถามเหล่านี้กับตัวเองจะช่วยให้คุณ ‘เลือกโซเชียลมีเดียที่ใช่’ กับตารางชีวิตของคุณ อุปนิสัยของคุณ รวมทั้งเงื่อนไขในอาชีพและการทำธุรกิจของคุณได้ง่ายขึ้น และถ้าคุณโฟกัสกับมันอย่างดี สามารถสร้างโปรไฟล์ที่สวยงามในที่ทางที่ตอบโจทย์ เชื่อเถอะว่าคุณจะมีเวลามากขึ้นอีกเยอะเลยที่จะกลับไปทุ่มเทสร้างผลงานศิลปะดีๆ ออกมาอวดชาวโลก
อ้างอิง: artworkarchive
ภาพประกอบ: Unsplash