ด้วยสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในตอนนี้ สำหรับเจ้าของกิจการแล้ว บอกได้เลยว่าต้องปรับตัวเท่านั้นถึงจะมีทางรอด และถ้าคุณกำลังเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังคิดเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจจากเดิมที่เปิดแบบออฟไลน์มาเป็นแบบออนไลน์ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร นี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเริ่มได้ง่ายขึ้น
1. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายของคุณคือลูกค้ากลุ่มเดิมกับร้านในโลกออฟไลน์หรือเป็นกลุ่มใหม่? อยู่ในกรุงเทพฯหรืออยู่ต่างจังหวัด? เป็นชาวไทยหรือต่างชาติ? การกำหนดกลุ่มเป้าหมายจะช่วยให้คุณสามารถออกแบบคอนเทนต์รวมถึงโฆษณาที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น ซึ่งยิ่งตรงก็ยิ่งมีโอกาสที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าสูงขึ้นนั่นเอง
2. สร้างเว็บไซต์
จากหน้าร้านแบบออฟไลน์ อย่างแรกที่คุณต้องมีก็คือหน้าร้านออนไลน์ที่จะเป็นสิ่งยืนยันว่าคุณมีตัวตนอยู่จริงในโลกเสมือน นอกจากนี้เว็บไซต์ยังช่วยให้คุณรู้ถึง insights ของผู้เข้าเยี่ยมชมที่จะช่วยให้คุณพัฒนาเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ลูกค้ายิ่งขึ้นด้วย
3. เข้าสู่โลกโซเชียลมีเดีย
ทุกวันนี้ การมีตัวตนอยู่ในโลกโซเชียลก็เป็นสิ่งจำเป็น แต่อย่าลืมว่าโซเชียลมีเดียแต่ละอย่างก็มีลักษณะประชากรที่แตกต่างกันออกไป ฉะนั้นสิ่งที่ต้องให้ความสนใจคือมีเดียที่เลือกควรจะตรงกับกลุ่มเป้าของของตัวเอง
4. สร้างกลุ่มลูกค้าของตัวเอง
เมื่อมีหลักแหล่งแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อมาคือทำให้ผู้ที่อาจเป็นลูกค้าในอนาคตเห็นเราอยู่ในสายตามากยิ่งขึ้น อาจจะเป็นการนำเสนอสินค้าอย่างต่อเนื่อง หรือสร้างคอนเทนต์ปังๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าให้คนติดตาม
5. สร้างช่องทางการติดต่อ
เนื่องจากโลกออนไลน์ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์แบบ face-to-face เหมือนโลกออฟไลน์ ดังนั้นการมีช่องทางติดต่อที่แน่นอนเป็นสิ่งสำคัญ อาจจะเป็นเบอร์โทร. ไลน์ หรือแมสเซจในเฟซบุ๊กก็ได้
6. คำนวณต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพื่อกำหนดราคาสินค้า
การค้าออนไลน์อาจจะช่วยลดต้นทุนหลายอย่าง แต่ก็มีต้นทุนส่วนอื่นๆ เพิ่มมาเช่นกัน เช่น ค่าจัดส่ง ค่าแอดมิน ค่าทำโปรดักชั่น ฉะนั้นเวลากำหนดราคาสินค้าควรรวมราคาสิ่งเหล่านี้ไปด้วย จะได้ไม่เข้าเนื้อตัวเอง
7. ติดตั้งระบบการชำระเงินออนไลน์
การโอนเงินแบบปกติก็ใช้ได้อยู่ แต่ถ้าเป็นสินค้าที่ราคาสูง การมีระบบชำระเงินออนไลน์ที่น่าเชื่อถือจะทำให้ขายสินค้าได้ง่ายกว่า
8. ทำการตลาดออนไลน์
การทำธุรกิจออนไลน์หมายถึงการแข่งขันที่สูงขึ้น และผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบสินค้ากับเจ้าอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น การตลาดจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะการหาเอกลักษณ์และชูจุดแข็งของตัวเอง นอกจากนี้ การวางแผนการทำการตลาดออนไลน์ผ่านช่องทางต่างๆ ก็เป็นเรื่องจำเป็นเหมือนกัน เพราะถ้าทำไปแบบไม่วางแผนให้ดี แบรนด์ของคุณก็อาจจะไม่ไปไหน
9. ตรวจสอบฟีดแบ็คอยู่เสมอ
หนึ่งในข้อดีของโลกออนไลน์คือเราเห็นฟีดแบ็คอยู่ตลอด ทั้งยอด Like, reach, impressions รวมถึงยอดผู้เข้าชมหน้าต่างๆ หรือสินค้าต่างๆ ในเว็บไซต์ ผู้ประกอบการจึงควรนำข้อมูลเหล่านี้มาประเมินอยู่เสมอว่าเราเดินมาถูกทางหรือไม่ แล้วจะไปทางไหนต่อ