fbpx

ค้นหาแรงบันดาลใจ พร้อมสัมผัส “ภูเก็ต” ในมุมใหม่ กับ ‘Courtyard by Marriott Phuket Town’

ทริปสำหรับนักเดินทางที่ต้องการค้นหาแรงบันดาลใจผ่านสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในย่านเมืองเก่า พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตผู้คนในเมืองภูเก็ต

หากพูดถึงการเดินทางไปพักผ่อนที่ภูเก็ต หลายคนอาจนึกถึงบรรยากาศของน้ำทะเลและหาดทรายสีขาวที่ทอดยาวตลอดชายฝั่ง ซึ่งนับว่าเป็นสวรรค์ของการพักผ่อนช่วงวันหยุด แต่นอกจากกลิ่นอายทะเลและธรรมชาติที่สวยงามแล้ว อีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้ผู้คนต่างพากันหลงใหลเมืองนี้ นั่นก็คือศิลปวัฒนธรรมที่แทรกซึมอยู่ในตัวเมือง ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมของตึกรามบ้านช่อง ร้านอาหารที่กระจายตัวอยู่ตามตรอกซอกซอย ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่คอยหล่อเลี้ยงวิถีชีวิตและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนในเมืองตลอดมา

เสพกลิ่นอายวัฒนธรรมถิ่นใต้ กับ คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์

เมื่อหมุดหมายของการเดินทางครั้งนี้คือการไปสัมผัสเสน่ห์และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ของตัวเมืองภูเก็ต ที่พักที่สามารถตอบโจทย์การเดินทางในครั้งนี้คงไม่มีที่ไหนจะเหมาะไปว่า “คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์” โรงแรมที่ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของเมืองภูเก็ต ห่างจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตประมาณ 40 นาที ด้วยทำเลที่ตั้งที่ใกล้ “หอนาฬิกาวงเวียนสุรินทร์” หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญและนับเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองภูเก็ต ทำให้โรงแรมแห่งนี้สามารถสร้างความสะดวกสบายในการเดินทางไปยังสถานที่อื่น ๆ รอบเมือง

เดินชม “เมืองเก่า” ที่เต็มไปด้วยความเก๋า

สถานที่แรกที่เราเดินทางไปหาแรงบันดาลใจนั่นก็คือ “เขตเมืองเก่า” ที่รายล้อมไปด้วยอาคารโบราณอายุไม่ต่ำกว่าสิบไปจนถึงร้อยปีที่ทรงคุณค่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส เราใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมเพียง 10 นาที ด้วย “รถตุ๊กตุ๊ก” รถสาธารณะสำหรับการเดินทางระยะสั้นๆ ที่ถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเมือง

ระหว่างที่เดินลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยของถนนของย่านเมืองเก่า ทำให้เราพบร้านค้า ร้านอาหารหลากหลายสไตล์ คาเฟ่ชิค ๆ พิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี่ รวมไปถึงสตรีทอาร์ตที่กลมกลืนไปกับตึกเก่าอายุหลายสิบปีตลอดสองข้างทางของถนน

“ศาลเจ้าแสงธรรม” ศูนย์รวมความศรัทธาของชาวเมือง

ศาลเจ้าเก่าแก่อายุนับร้อยปีตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ บนถนนพังงา แม้ทำเลที่ตั้งจะอยู่ใจกลางเมืองที่ผู้คนพลุกพล่านแต่หากเมื่อเราค่อยๆ เดินเข้าไปภายในศาลเจ้ากลับพบกับบรรยากาศที่เงียบสงบ

นอกจากศาลเจ้าแห่งนี้จะเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของชาวภูเก็ตแล้ว ยังมีความสำคัญในแง่ของสถาปัตยกรรมในรูปแบบจีนประเพณี โดยตัวอาคารเป็นรูปแบบเก๋งจีนขนาดเล็ก กะทัดรัด ส่วนบนหลังคามีปูนปั้นรูปมังกรและตุ๊กตาจีน ลวดลายต่างๆ ซึ่งเป็นที่นิยมในมณฑลฮกเกี้ยนประดับตกแต่งอย่างสวยงาม

“มาร์ดี”สตรีทอาร์ตแลนมาร์กเมืองภูเก็ต

สตรีทอาร์ตที่เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กยอดฮิตของเมืองภูเก็ต ภาพเด็กน้อยสามตาในชุดสัตว์น่ารัก เป็นผลงานจากศิลปินกราฟฟิตี้ชื่อดังชาวไทยอย่างคุณอเล็กซ์ เฟส หรือคุณพัชรพล แตงรื่น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลูกสาวของเขา และดวงตาที่สามบนหน้าผากของน้องมาร์ดีนั้นก็เปรียบเสมือนดวงตาที่มีไว้เพื่อคอยสอดส่อง ระแวดระวังภัยอันตรายต่างๆรอบตัวเด็กๆ

“ซอยรมณีย์” ซอยที่โรแมนติกที่สุดของเมือง

เมื่อเดินต่อกันมาถึง ถนนถลาง ก็ต้องเดินแวะเข้าไปใน “ซอยรมณีย์” ในอดีตซอยนี้คือซอยแห่งสถานเริงรมย์ ปัจจุบันตึกแบบโคโลเนียลกลุ่มนี้ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันสดใส แล้วปรับปรุงเป็นร้านกาแฟ ร้านขายของฝาก เกสท์เฮ้าส์ ซึ่งบางส่วนก็ยังคงเป็นที่อยู่อาศัยของคนท้องที่ ทำให้ซอยรมณีย์แห่งนี้มีชีวิตชีวา และถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งซอยที่ให้อารมณ์โรแมนติกมากที่สุดแห่งหนึ่งในภูเก็ต

การเดินบนถนนและตรอกซอกซอยในตอนกลางวันที่มีแดดจัดไม่ได้ทำให้เราอ่อนล้าแต่อย่างใด ในทางกลับกันเรากลับรู้สึก กระปรี้กระเปร่า ตื่นเต้นไปกับสถาปัตยกรรมที่หาดูได้ยาก และได้เพลิดเพลินไปกับความหลากหลายของร้านค้าที่ตั้งอยู่ภายในตึกเก่าสองข้างทาง และหากนี่คือบรรยากาศของถนนถลางตอนกลางวัน เราจะรู้สึกแตกต่างออกไปหากมาเยือนสถานที่แห่งนี้ในยามค่ำคืน

“หลาดใหญ่”ตลาดนัดคนเดินศูนย์รวมอาหารและงานฝีมือ

ทุกๆ คืนวันอาทิตย์ ถนนถลางสายนี้จะถูกเปลี่ยนให้เป็น ตลาดนัดคนเดินที่เป็นแหล่งรวมอาหาร เครื่องดื่ม ของทานเล่น ทั้งอาหารพื้นเมืองภูเก็ต รวมไปถึงงานแฮนด์คราฟต์ และของที่ระลึกต่าง ๆ นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ มีกิจกรรมเล่นดนตรีสด เราก็จะได้เห็นเด็ก ๆ มาแสดงความสามารถให้ผู้คนได้ชื่นชม ที่ตลาดแห่งนี้คุณสามารถทานของกินอร่อย ๆ ไปพร้อมกับการฟังดนตรีในยามค่ำคืน นับเป็นบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์

การเดินสัมผัสบรรยากาศบริเวณรอบเขตเมืองเก่า ทำให้เรารับรู้ได้ว่าไม่ว่าจะตอนกลางคืนหรือกลางวัน สิ่งต่างๆ ที่อยู่ภายในย่านแห่งนี้ ล้วนชูเสน่ห์และบอกเล่าเรื่องราวของวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตของชาวภูเก็ตได้เป็นอย่างดี เป็นอีกสถานที่ที่นักท่องเที่ยวควรได้มาสัมผัสสักครั้ง

“บ้านชินประชา” มรดกสถาปัตยกรรมเก่าแก่กว่าร้อยปี

ถัดออกมาจากย่านเมืองเก่าประมาณ 500 เมตร จะเป็นสถานที่ตั้งของ “บ้านชินประชา” บ้านสไตล์ชิโน-โปรตุกีสหลังแรกของภูเก็ต หรือที่เรียกกันว่า “อังม่อเหลา” บ้านหลังนี้มีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระพิทักษ์ชินประชา ชาวจีนฮกเกี้ยนโพ้นทะเลที่ตระกูลของท่านได้เข้ามาประกอบกิจการเหมืองแร่ดีบุก บนเกาะภูเก็ตพร้อม ๆ กับค้าขายกับปีนัง นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชม

นอกจากบ้านหลังนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมแล้ว ยังเป็นศูนย์เผยแพร่ความรู้ทางศิลปวัฒนธรรม เป็นสถานที่จัดกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมของภูเก็ต เช่น การแต่งงานบาบ๋า-ยาหยาซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน รวมทั้งเป็นสถานที่ถ่ายภาพยนตร์ในบางโอกาสอีกด้วย

เรียนรู้ วิธีและวิถี “ชุมชนบ้านบางโรง”

ประสบการณ์การสอยลูกมะพร้าวจากต้น นำมาคั้นกะทิ และกินบัวลอยจากฝีมือการปั้นของตัวเอง คงเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้บ่อยคร้ง การเดินทางครั้งนี้เปิดประสบการณ์ใหม่ให้ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้านใน “ชุมชนบ้านบางโรง” ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่กว่า 200 ปี โดยภายในชุมชนมีการจัดกิจกรรม “ท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์บ้านบางโรง” ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้านในชุมชน

กิจกรรมที่เราเลือกทำในวันนี้ คือบัวลอยกะทิสด เราเรียนรู้วิธีการทำตั้งแต่การเก็บมะพร้าวจากต้น นำมาแกะเปลือก คั้นน้ำกะทิสด ๆ จากนั้นก็ได้ลองปั้นลูกบัวลอยที่แต่ละคนล้วนใส่จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์กันอย่างเต็มที่ โดยที่ต้องแอบมาลุ้นทีหลังว่าลูกบัวลอยจะออกมาเป็นรูปร่างแบบที่ตั้งใจหรือไม่

ใช้เวลาเพียงไม่นานเราก็ได้ทานบัวลอยแป้งนุ่มๆ ในน้ำกะทิสดหอมๆ ที่ปรุงรสได้พอดีไม่หวานจนเกินไป ถือเป็นประสบการณ์ที่ให้ทั้งความรู้ เสียงหัวเราะ และช่วยเติมพลังในตอนบ่ายแก่ๆ ของวันได้เป็นอย่างดี

“จุดชมวิวเขารัง” ชมวิวเมืองภูเก็ต ที่ขับเคลื่อนด้วยความคิดสร้างสรรค์ และวัฒนธรรมที่หลากหลาย

เมื่อแสงแดดเริ่มคล้อยไปตามขอบฟ้า เราก็ไม่พลาดที่จะมาที่ “จุดชมวิวเขารัง” เขารังเป็นเนินเขาอยู่ในตัวเมืองภูเก็ตทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือเมื่อรถยนต์ขับขึ้นมาถึง เราสามารถเห็นทัศนียภาพของเกาะภูเก็ตทั้งเมืองอย่างชัดเจน ตึกน้อยใหญ่ และถนนแต่ละสายที่ไปมาถูกย่อสเกลเหลือขนาดเท่านิ้วมือ

เมื่อมองไปสุดสายตาก็จะเห็นชายทะเลที่ล้อมเกาะอันแสนรุ่มรวยทางวัฒนธรรมแห่งนี้อยู่ ก่อนอาทิตย์จะลาขอบฟ้า เรานั่งทานอาหารเย็นพร้อมลิ้มรสความเป็นเมืองภูเก็ตในอาหารแต่ละจาน และเมื่อแสงไฟจากบ้านเรือนเข้ามาแทนที่แสงอาทิตย์ก็เกิดทัศนียภาพที่งดงาม ให้อารมณ์ที่แตกต่าง และสร้างความประทับใจให้เราก่อนจะเดินทางกลับที่พัก

 ‘Courtyard by Marriott Phuket Town’ ที่พักที่พร้อมเติมเต็มการพักผ่อน และการค้นหาแรงบันดาลใจแบบไม่รู้จบ

การเข้าพักที่โรงแรมคอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ ครั้งนี้สร้างความประทับใจให้เราเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากที่ตั้งของโรงแรมจะตั้งอยู่บนทำเลที่สามารถเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกแล้ว ตัวอาคารก็เน้นการออกแบบร่วมสมัย พร้อมวิวเมืองภูเก็ตที่ได้เห็นความพลุกพล่านแต่ไม่วุ่นวาย ช่วยขับเคลื่อนแรงบันดาลใจได้เป็นอย่างดี

การออกแบบของโรงแรมยังนำองค์ประกอบของศิลปะและงานฝีมือแบบไทยดั้งเดิมมาประกอบไว้ เพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับชุมชนท้องถิ่น ทำให้เมื่อเข้าพักเราจะยังคงได้รู้สึกและซึมซับถึงความเป็นเมืองและวิถีชีวิตของคนภูเก็ตอยู่เสมอ ภายในโรงแรมมีห้องพักและห้องสวีทที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันจำนวน 248 ห้อง รวมถึงห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทขนาด 140 ตร.ม. โดยทุกห้องพักเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อย่างครบครัน รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลางที่เรียกได้ว่าสามารถดึงเสน่ห์และชูความเป็นภูเก็ตอยู่ในทุก ๆ องค์ประกอบของการเข้าพัก

เต็มอิ่มกับห้องอาหาร 3 สไตล์ที่สะท้อนเอกลักษ์ของเมือง 

ห้องอาหารครัวตลาดใหญ่

ห้องอาหารที่เปิดให้บริการทั้งวัน พร้อมเสิร์ฟอาหารไทยท้องถิ่นประจำภาคใต้และอาหารนานาชาติ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เข้าพัก

และหากใครได้ทานอาหารเช้าที่นี่ก็ต้องห้ามพลาดเมนูซิกเนเจอร์ของ “ออมเล็ตหมูฮ้อง”ออมเล็ตร้อนๆ ถูกราดด้วยหมูฮ้องชิ้นนุ่มที่ปรุงรสมาได้อย่างข้มข้นแต่ไม่จัดจ้านจนเกินพอดี เหมาะสำหรับการทานเป็นมื้อแรกของวัน

โดยในมื้อเย็นโรงแรมได้เปิดบริการบุฟเฟต์นานาชาติและซีฟู้ด ที่ยกความอร่อยมาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น โคลด์คัทและชีสนำเข้า หอยนางรมสดๆ ซูชิและซาชิมิระดับพรีเมียม อาหารทะเลเสิร์ฟเย็นและเมนูทะเลเผาที่ทุกคนชื่นชอบ พร้อมด้วยเมนูอาหารคาวหวานอีกหลากหลายรายการให้คุณได้ลิ้มลอง ท่ามกลางบรรยากาศครัวเปิดที่ทุกคนจะได้ตื่นตาไปกับการจัดเตรียมอาหารจากเชฟอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ยังมีโซนกลางแจ้งให้คุณสามารถนั่งรับลมชิลล์ ๆ ในบรรยากาศทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน

ตะลุง เลาจน์

ครัวที่มีกลิ่นอายของถิ่นใต้และความร่วมสมัย เปิดให้บริการกาแฟรสเลิศ พร้อมกับเค้กและขนมหวานที่อบสดใหม่ทุกวัน รวมไปถึงเมนูอาหารทานง่าย ซึ่งศิลปะบนผนังบริเวณล็อบบี้ เลาจน์ ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “หนังตะลุง” หนึ่งในศิลปะการแสดงพื้นบ้านอันเป็นเอกลักษณ์และมีความสำคัญทางด้านวัฒนธรรมของชาวใต้มาอย่างยาวนาน โดยการตกแต่งนั้นได้ใช้แสง เงา และลวดลายฉลุ ที่เป็นหัวใจหลักของหนังตะลุงมาตกแต่งบริเวณผนังได้อย่างร่วมสมัย

กอและ พูลบาร์

ตั้งอยู่ริมสระว่ายน้ำชั้น 4 เหมาะสำหรับผู้เข้าพักที่ต้องการผ่อนคลายไปกับหลากหลายเมนูค็อกเทล ม็อกเทล และน้ำผลไม้คั้นสดจากวัตถุดิบของไทย การออกแบบตกแต่งบาร์ริมสระนั้นได้แรงบันดาลใจมากจากเอกลักษณ์ทั้งรูปทรงและลวดลาย ของเรือกอและ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในมนต์เสน่ห์ของภาคใต้ ด้วยความโดดเด่นของลวดลายที่อ่อนช้อยสวยงาม และยังสื่อถึงวิถีชีวิตของชาวเล 

นอกจากกลิ่นอายของวัฒนธรรมภาคใต้ที่แทรกซึมอยู่ในทุกมิติของโรงแรมแล้ว โรงแรมยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเช่น ฟิตเนส ที่พร้อมด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายแบบครบครัน  มีกิจกรรมคลาสโยคะ และคลาสสอนออกกำลังกาย ให้คุณได้เลือกทำระหว่างการพักผ่อน

หากมีแพลนเที่ยวกับครอบครัว หรือต้องการเดินทางมาทำธุรกิจ โรงแรมก็มี คิดส์คลับ และพื้นที่สำหรับการจัดงานประชุม ทั้งการประชุมทางธุรกิจหรือการจัดกิจกรรมทางสังคม สามารถตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมายของนักเดินทาง

ช่วงเวลา 2 วันในเมืองภูเก็ตแห่งนี้ ทำให้เราได้ซึมซับกับบรรยากาศที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ ทั้งอาคารเก่าแก่ อาหาร วัฒนธรรมที่แทรกซึมอยู่ในตัวเมืองและวิถีชีวิตของผู้คน

และสิ่งสำคัญคือการเข้าพักที่ ‘Courtyard by Marriott Phuket Town’ ด้วยทำเลที่ตั้ง การออกแบบที่น่าดึงดูด พื้นที่ใช้สอยที่ยืดหยุ่นพร้อมด้วยอาหารและเครื่องดื่มสุดคลาสสิกของท้องถิ่น พร้อมทั้งการบริการอันยอดเยี่ยม สิ่งเหล่านี้ประกอบสร้างให้การเดินทางค้นหาแรงบันดาลใจในภูเก็ตครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น และสร้างความประทับใจได้แบบไม่รู้ลืม

ผู้ที่สนใจสามารถจองห้องพักและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.courtyardphukettown.com 

Facebook CourtyardbyMarriottPhuketTown 

โทร. 0-7664-3555

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin
Share on pinterest

More to explore

แผลเก่า:Old Wound แผลเดิมในเรื่องเล่า ที่ยังเป็นแผลสดของพล็อตสังคมไทย

นิทรรศการ แผลเก่า / Old Wound นิทรรศการเดี่ยวโดย ประทีป สุธาทองไทย ศิลปินนักตั้งคำถาม ผู้ซ่อนบทสนทนาทางสังคมไว้ในงานเสมอ

“Yesterday I Was, Tomorrow I Will Be” นิทรรศการแห่งความฝันและความสำเร็จของ “Pomme Chan”

ก้าวสู่โลกที่เปี่ยมไปด้วยแพชชั่น ผ่านผลงานศิลปะตั้งแต่ชิ้นแรกที่น้อยคนจะได้เห็น สู่วันที่ประสบความสำเร็จในสายอาชีพร่วมระยะเวลา 20 ปี