fbpx

4 หนังสร้างแรงบันดาลใจที่พิสูจน์ว่า ‘เด็กเนิร์ด’ คือผู้คุมโลก

รวมหนังดีที่จะเปลี่ยนความคิดคุณเกี่ยวกับเด็กเนิร์ดผู้น่าสงสาร เพราะชีวิตจริงนอกรั้วโรงเรียนนั้น เขาเหล่านี้คือผู้ชนะ

ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่าเด็กเนิร์ด ใช่ไหม ถ้าถามว่าอยากถูกเรียกไหม คงส่ายหัวกันหงึกหงักๆ เคยคิดไหมว่าเราน่ะเด็กหลังห้องมันช่างเจ๋ง ช่างป๊อปปูล่าห์ในโรงเรียนเหลือเกิน ยิ่งมีพวกมาก เพื่อนมาก ทำตัวเกเรเท่าไหร่ ยิ่งเด่น เหมือนมันยิ่งมีอิทธิพล ในโรงเรียนก็มีแต่คนรู้จักชื่อเรา มันเหมือนเป็นค่านิยมที่ปลูกฝังความคิดเราแปลกๆ ว่าการที่เราทำตัวแบบนี้จะทำให้มีพลังอำนาจอะไรบางอย่าง กลายๆ เหมือนพฤติกรรมนี้เป็นคำตอบของการเป็นที่ยอมรับของสังคมที่เขาเรียกว่า เจ๋ง ยิ่งให้นั่งเป็นเด็กหน้าห้องน่ะเหรอ ลืมไปได้เลย

โตมาเราถึงรู้ว่าพฤติกรรมอะไรแบบนี้ มันเป็นเรื่องของฮอร์โมนในช่วงวัยรุ่นของเราเท่านั้น ซึ่งสุดท้ายแล้ว พวกเราเด็กเกเรหลังห้องไม่ใช่คนคุมโลก แต่คนที่คุมโลกคือพวกเด็กหน้าห้องต่างหาก พวกเด็กเรียนที่เราเคยล้อเขานั่นแหละ

และวันนี้เราได้หยิบหนัง 4 เรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจมาฝากกัน ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่า สุดท้ายผู้ที่ไขว่คว้าและขวนขวายกระหายความรู้ต่างหาก พวกเขาเหล่านั้นคือคนคุมโลก

1. Imitation game

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศอังกฤษได้มีโปรเจ็คต์ลับ ที่รวบรวมเหล่าอัจฉริยะหลายๆ คนมาเพื่อทำการถอดรหัสลับในสงครามของฝ่ายอักษะ หนึ่งในนั้นคือตัวเอกของเรื่องที่ถูกรังแกตั้งแต่เด็ก และเป็นเด็กหน้าห้องที่ตั้งใจเรียน สุดท้ายใครจะเชื่อว่าเด็กเนิร์ดคนนี้นี่แหละ ที่ทำให้กระสุนในสมรภูมิหยุดยิง ระเบิดที่กำลังจะถูกแกะสลักเงียบลง ปรมณูหยุดส่งวิถี และจบสงครามโลกครั้งนี้ด้วยความสามารถของเขาในห้องเล็กๆ นับว่าเป็นอีกเรื่องที่พลาดไม่ได้เลยทีเดียว

2. The theory of everything

ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าถึงเด็กเรียนคนหนึ่ง ที่มีความไขว่คว้าหาความรู้ และคำตอบรอบตัวตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาสามารถเข้าไปทำวิจัยเรียนจบในมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ หนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกได้อย่างสบายๆ โดยโปรเจ็คต์วิจัยของเขา เขาต้องการที่จะไขความลับของปัญหาที่ถูกตั้งมานานแล้วของโลก โดยเขามุ่งไปที่การไขปัญหาง่ายๆ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน แต่ไม่เคยมีใครสามารถไขปัญหานี้ลงได้มาก่อน สิ่งนั้นก็คือ “เวลา” นี่เอง เขาเชื่อว่าถ้าเขาสามารถไขปัญหานี้ได้ ปัญหาทุกอย่างรอบตัวทุกอย่างก็จะถูกไขลงได้ เขาเรียกทฤษฎีนี้ว่า “The theory of everything” เป็นอีกเรื่องที่มีเนื้อหาตื่นเต้นให้ลุ้นในทุกๆ ฉากอย่างพลาดไม่ได้เลยทีเดียว

3. Pirates of Silicon Valley   

บอกหน่อยว่าตอนนี้ใครติดอันดับรวยที่สุดในโลกทุกปีๆ คนที่ติดอันดับเป็นมหาเศรษฐีร่ำรวยในยุคนี้ และกุมอำนาจที่สุด คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนที่คุมวงการคอมพิวเตอร์ที่เราต้องพึ่งพาอยู่ทุกวันนี้นี่เอง เพราะวงการนี้ได้ทำการเปลี่ยนโลกเราไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว และพวกเขาเหล่านั้นก็เป็นเด็กเนิร์ดหน้าห้องนั่นเอง อีกทั้งยังชิ่งลาออกมาก่อนเรียนจบเพื่อมาทุ่มเทให้ความรู้ที่ตัวเองสนใจด้านนี้อย่างเต็มที่อีกต่างหาก ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาคุณไปพบกับจุดเริ่มต้นของทั้ง บิลล์ เกตต์ และ สตีฟ จ็อบส์ ในช่วงเริ่มต้นของการปฏิวัติยุคสมัย ความพยายามของเขาที่สามารถหมุนเทคโนโลยีโลกเราให้มาถึงจุดนี้ได้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ขอบอกเลยว่าห้ามพลาด

4 หนังสร้างแรงบันดาลใจ ที่พิสูจน์ว่าสุดท้ายเด็กเนิร์ดคือคนคุมโลก

4. Social Network

ภาพยนตร์เรื่องนี้ บอกเล่าถึงเรื่องราวของเด็กเนิร์ด คนหนึ่งที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย และทดลองโปรเจ็คต์ลับๆ อะไรบางอย่าง ที่เริ่มเปิดให้คนในมหาวิทยาลัยลองใช้ เขาคนนี้มีลักษณะของเด็กเนิร์ดที่คนพูดนึกภาพถึงทุกอย่าง ทั้งการพูดเร็ว อันเป็นนิสัยประจำของเด็กเนิร์ดที่นักวิทยาศาสต์ชี้ว่าบ่งบอกถึงสภาพสมองที่ชาญฉลาด และสุดท้ายเด็กเนิร์ดคนนี้นี่แหละ ที่เป็นผู้สร้างเครือข่าย Facebook ที่มีผู้ใช้หลายพันล้านคนทั่วโลกทุกวันนี้ ขอถามตรงๆ เลยว่า เด็กเกเรสมัยนี้ใครไม่มีเฟซบุ้คบ้าง ถ้าเราๆ ที่เคยเกเรคนไหนกำลังใช้เฟซบุ้คอยู่ ขอบอกเลยว่าเราก็กำลังพึ่งอิทธิพลของเด็กเนิร์ดที่เราเคยล้ออยู่นั่นเอง (กลืนน้ำลายตัวเอง..เอื้อก)

สุดท้ายนี้ถ้าใครยังทำตัวเกเร ไม่สนใจความรู้ ไม่ตั้งใจเรียน ที่สำคัญยังโดดเรียนอยู่และเห็นว่าความรู้มันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น เราขอแนะนำให้สุดสัปดาห์นี้รีบไปหยิบหนังเหล่านี้มาดูด่วนๆ เพราะบางทีมันอาจจะเปลี่ยนความคิดนี้ของคุณไปเลยก็ได้ และบางทีเราก็ต้องยอมรับว่าชีวิตจริง มันสู้กันนอกห้องเรียน

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin
Share on pinterest

More to explore